ลงทะเบียน ลงชื่อเข้าใช้
หนูนา แฟนคลับ หน้าแรก

*~ N i R a K a N ~* http://www.noona-fanclub.com/?1240 [บุ๊คมาร์ก] [คัดลอก] [แบ่งปัน] [RSS] จะขอดูแลน้องสาวคนนี้ด้วยรักและห่วงใยตลอดไป~*

บล็อก

ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา ~*

ความนิยม 2เข้าชม/อ่าน 1065 ครั้ง22-3-2011 10:24 |เลือกหมวดหมู่:ไดอารี่

ขออนุญาต Copy มาจาก Exteen ของผมนะครับ เขียนไว้นานมากแล้ว ยาวมากๆ จะไม่อ่านก็ได้นะไม่เป็นไร แต่เชื่อได้ว่า ทุกท่านที่ได้อ่านจะมีความสุขไปกับผมด้วย

บังเอิญได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Suckseed แล้วได้ฟังเพลง "ทุ้มอยู่ในใจ" มันเลยทำให้คิดถึงเรื่องในอดีต ทั้งเรื่องดีและไม่ดีต่างๆ จะเก็บเอาเรื่องดีๆมาให้อ่านแล้วกันครับ


เรื่องเกิดขึ้น ตอน ม. 1 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อนผมคนนี้ ผมรู้จักมาก่อนหน้านี้แล้วเกือบสามปี เป็นเพื่อนตั้งแต่โรงเรียนเก่า พอย้ายมาโรงเรียนนี้ ก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ก็นะ ด้วยความที่ผมยังเด็กมาก ไม่เคยมีประสบการณ์จีบหญิงมาก่อน ดันไปทำให้เค้ารู้ว่า เราชอบเค้า ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้

จดหมายสารภาำพนั้นถูกส่งไปให้เพื่อนๆในห้องได้รู้กัน ผมเซ็งมาก ทำอะไรไม่ถูก และความสัมพันธ์ที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนนั้น ตอนนี้เหลือแค่เพียง "คนเคยรู้จัก" เธอไม่คุยกับผมอีกเลย

ม. 2 อยู่คนละห้อง เลยไม่ค่อยได้เจอกัน แต่มันเริ่มอีกครั้ง ตอน ม. 3 เหมือนสวรรค์ทรงโปรด ให้เรามาอยู่ห้องเดียวกันอีกครั้ง แต่ ดันมีตัว Retarder ซะได้ ขอเรียกมันว่า อีเกลือ แล้วกัน มันอ่ะเป็นแฟนกับรุ่นพี่กองร้อยฯผม มันเรียนเก่ง สวย น่ารัก นิสัยก็ดี แต่เสียอย่างเดียว มันเค็ม เรื่องตังนี่ไม่ได้เลย มันเลยได้เป็นเหรัญญิกประจำห้อง และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันเค็ม ก็ขนาดชื่อจริงของมันยังแปลออกมาได้ว่า "เงินดี" เลย เอากับมันสิ

ผมนั่งเก้าอี้ตัวหน้าสุด ประจัญหน้ากับโต๊ะอาจารย์ ไอ่เกลือนั่งถัดไปจากผม แล้วเธอคนนั้น นั่งถัดจากไอ่เกลือไป สองคนนี้ก็เพิ่งรู้จักกันตอนย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ แต่ทำไม๊ มันต้องมาขัดขวางอะไรเรามากมาย (หรือว่า..... ไว้ตอนท้ายเราจะมาวิเคราห์เรื่องนี้กัน ^^)  อ่ะ ขวางไปเถอะ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้วล่ะตอนนั้น ไม่คุยกันมาสองปีแล้ว ไม่มีหวังและล่ะ

แต่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ความสัมพันธ์กลับกลายเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ คุยกันมากขึ้น ยิ้มให้กันมากขึ้น และรู้สึกดีต่อกันมากกว่าเดิม ผมไม่รู้นะ ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก แต่ในตอนนั้น ผมคิดว่าเค้าก็คงหวั่นไหวเหมือนกันล่ะครับ บางครั้งเราก็แอบมองเค้าไม่ละสายตา พอเค้าหันมาเราก็แกล้งหันไปทางอื่น แต่หลังๆ ไม่แล้ว ปล่อยให้เธอ หันมาสบตาเราบ้างครับ ตาประสานกันบ่อยมาก แรกๆก็คิดว่าเธอจะโกธรนะ แต่เธอไม่เคยโกธรเลย เธอยิ้มเขินแค่ครั้งสองครั้งเอง นอกนั้นก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็หลบตาไป แล้วก็แปลกๆ - -" (ประมาณเหมือนในหนังหลายๆเรื่อง ประสานสายตาและรู้ความรู้สึกของตัวเอง)

อย่างที่บอก ผมไม่ได้หวังอะไรมากแล้วครับ แต่ก็แทบจะตามไปทุกที่ที่มีเธอ ผมจะเป็นคนจ่ายค่าน้ำเปล่าให้เธอทุกวัน (แถมต้องจ่ายให้ไอ้เกลืออีก ไปด้วยกันอย่างปาท่องโก๋อีนี่) ผมเลยไม่ค่อยได้รุกคืบอะไรมากมาย แต่การกระทำของเธอนั้นบ่งบอกแล้วว่าเธอยอมให้ผมเข้าไปอยู่ในส่วนเล็กๆของ หัวใจเธอบ้างแล้วล่ะ ถึงขนาดยอมให้ตามไปได้อย่างอิสระแล้วเนี่ย

ตอนไปเข้าค่ายที่ตรัง เราโทรมาหาเธอด้วย เป็นครั้งแรกที่โทรไปหาเธอแล้วเธอยอมคุย แต่ก็คุยกันไม่นาน เพราะโทรศัพท์ผมยืมเพื่อนโทรอ่ะ ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ อยู่ไกล แต่ได้ยินเสียงก็พอใจแล้ว หุหุ ไปค่ายก็มีน้องๆที่สงขลาตามมากรี๊ดเราด้วยเว้ย(พูดยังกะแม่งเป็นเบยองจุน 555+) กลับมาโรงเรียน ไอ้เพื่อนที่ไปด้วยมันก็ดันเอาไปเล่าให้เธอฟัง เธอก็มาุถามผมเหมือนกันนะ ว่า ได้ข่าวว่ามีเด็กๆมาชอบเหรอ เราก็ไม่บอกง่ะ แต่คิดในใจ ว่ากุก็มีคนเห็นคุณค่าเหมือนกันเว้ย

น้องๆเหล่านั้น ปัจจุบันก็ยังคุยกันอยู่ครับ บางคนก็นะ มีแฟนไม่รู้ก็คนแล้ว กร๊ากกกก แซวหน่อย

มันมีบางเรื่องที่เพื่อนสนิดผมบอก บางทีตอนผมเผลอ เพื่อนผมก็มักจะเห็นเธอแอบมองผมอยู่เหมือนกัน เวลาผมทำอะไร บางครั้งผมจะเต็มที่กับมัน จริงจังกับมัน ทำการบ้าน ทำงาน นั่งเขียนโน่นเขียนนี่ อ่านหนังสือ ผมจะจริงจัง และมุ่งมั่นมาก บางทีเพื่อนก็ชอบแกล้งผม เอาของของผมไปซ่อนในกระเป๋าเธอบ้าง กล่องดินสอบ้าง แล้วเธอก็ไม่คืนเว้ย เห็นของคนอื่นแล้วเอาไปเฉย ไมุ่ถาม จนเราไปเห็นเองว่า เฮ้ย ของเราไปอยู่กระเป๋าเธอได้ไง

เด็ดสุด วอล์กเกิ้ลถัก กองร้อยพิเศษ เราต้องใช้สายไฟถักวอล์กเกิ้ลเองครับ แล้ว วันนั้นตอนเช้า รีบออกมาจากบ้าน ม้วนผ้าผูกคอไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยถอดวอล์กเกิ้ลออก แล้วพันใหม่ตอนโฮมรูม พันเสร็จ หาวอล์กเกิ้ลไม่เจอเว้ย งานเข้า หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แล้วจะเอาสายไฟมาถักใหม่จากไหน แล้วถ้าไม่มีถือว่าผิดวินัยร้ายแรงด้วย โดนเล่นแน่ตอนเย็น - -" จนโฮมรูมเสร็จ อ. สอนคณิตศาสตร์เข้ามาสอน อ. ท่านนี้ผมรักท่านมาก และท่านก็ทราบเรื่องของผมสองคนด้วย ก็ นั่งเรียนไปได้สักห้านาที ผมหันไปเห็นอะไรแปลกๆในกล่องดินสอเธอเข้า เฮ้ย วอล์กเกิ้ลผม ตอนแรกผมก็คิดว่าเธอไม่เห็น แบบว่าโดนแอบเอาไปใส่ไว้เหมือนปกติ แต่ ไม่อ่ะ เธอจับๆ มองๆ แล้วก็ปิดกล่องซะงั้น เฮ้ย อารายเนี่ย เราเลย เอาวะ จังหวะอาจารย์พักแป๊บนึง เลยบอก "อาจารย์ครับ ขออนุญาตครับ" แล้วเราก็ลุกขึ้นไปเลย เดินไปที่โต๊ะเธอ "เปิดกล่องดินสอหน่อยได้ป่ะ" เธอก็งงๆ แต่ก็ไม่เปิด แล้วก็บอกกลับมา "เปิดทำไม ไม่มีอะไรหรอก" เราก็บอกไป "เปิดเถอะ มีของของเราอยู่ในนั้น" เธอก็ยอมเปิดครับ ปรากฎว่า วอร์กเกิ้ลเราอยู่ในนั้นจริงๆ อาจารย์เป็นพยานให้ด้วย เพื่อนๆในห้องโห่หิ้วกันเกรียวกราวมาก เฮฮาสุดๆ เธอเขินจนพูดอะไรไม่ออกเลย ก็นะ เห็นแล้วทำไมไม่คืน ก่อนหน้านั้นเราก็ถามแล้วว่า เห็นไหม

อีกเรื่อง ฟิวหนังไทยอีกแล้ว ค่ายลูกเสือ ขากลับ รถบัส ผมนั่งแล้วเมื่อย เลยยืนข้างๆเบาะผมนั่นแหละ แต่เบาะหน้าผม ก็เธอนั่นแหละครับ ไม่รู้นึกยังไง ลุกขึ้นมายืนกับผมเฉย แล้วก็ตามระเบียบ รถเบรค 555+ แต่ไม่ถึงขั้นล้มลงไปกองอยู่กับพื้นหรอก แค่ชนแล้วก็ ..

หลังจากนั้นเราก็มีแต่ความรู้สึกดีๆให้กันเสมอมา จนวันปัจฉิมนิเทศ ม. 3 เพื่อนๆให้ของกัน ผมก็ถักวอร์คเกิ้ลอันเล็กแจกเพื่อนๆ แต่อันใหญ่ที่ผมใส่ออกค่ายทุกค่าย ผมให้เธอในวันปัจฉิม


"มันอาจจะเป็นแค่าสายไฟที่ถักๆ เพื่อใช้ประโยชน์อย่างนึง แต่เค้าใส่มันไปทุกที่ทุกค่ายที่ไป และเอาสวมมันไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายเวลาไม่ได้ใส่ผ้าผูกคอ ขอให้เก็บไว้ให้ดี มันเสมือนตัวเรา และหัวใจเรา เธอก็รู้นี่ว่าเรารู้สึกยังไง"

เธอยิ้มให้ แล้วก็รับไว้

ขึ้น ม.ปลาย ผมก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแต่ก็เป็นผู้หญิงคนที่สองที่ผมมีความรู้สึกว่า รัก(ตอนนี้เลิกคบไปแล้ว ทำให้ผมโสดจนปัจจุบัน สี่ปีแล้วครับ) นานๆครั้งที่ผมจะได้เจอเธอ

ม. 5 มันมีเหตุการณ์ไม่ดีบางอย่างที่มันทำให้ผมและเพื่อนๆหลายๆคนลงความเห็นกัน ว่า เราสองคนฟ้าลิขิตมาให้คู่กัน แต่ต่างคนเลือกจะไปตามทางเดินของตัวเอง โดยที่จะไม่มาบรรจบกันในที่สุด ผมโดนรถชน เข้าเฝือกเป็นเดือนๆครับ เธอเจอผมก็แซวเล่นเหมือนกัน ตอนนั้นมันมีโฆษณากำลังฮิต รองเท้านันยางมั้งเท่าที่จำได้ "เป๋ เก็บบอลให้หน่อยเด๊ะ" อืม เอาเข้าไป พอผมถอดเฟือกได้สองวัน เธอก็ประสบอุบัติเหตุ ขาหักเข้าเฝือกเหมือนกัน ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลครับ ยังดีที่ไม่เป็นอะไรร้ายแรงไปมากกว่านี้ แล้วจะบอกว่า ห้องพิเศษที่เธอพักอยู่อ่ะ มันอยู่ข้างๆห้องพิเศษอีกห้องที่ผมพักอยู่เมื่อเดือนก่อน ตอนนั้นแฟนผมเค้าเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมากๆ เค้างอนผมโดยไม่มีเหตุผลเป็นเดือนๆเลยครับ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง มันไม่ใช่ความผิดของใครนีี่นา จะให้โทษฟ้าเหรอ แฟนผมก็บอกว่า ก็เข้าใจว่า ผมไม่ได้ทำให้มันเกิด แต่เค้าหดหู่ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้

เธอออกจากโรงพยาบาลมา ก็คุยกับผมใน MSN บ่อยพอสมควร (ผมแอบแฟนคุย) ผมรับรู้ถึงความทุกข์ของเธอ เพราะเธอหนักกว่าผม เพราะเธอต้องผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาด้วย แล้วต้องนั่งรถเข็น แล้วเพื่อนต้องช่วยเข็นเธอ ผมก็พยายามให้กำลังใจเธอ ตลอด จนเธอสามารถเดินได้เป็นปกติ

เรื่องใกล้จบแล้วครับ ถึงวันสุดท้ายที่จะ้ต้องอำลาชีวิตเด็กมัธยมแล้ว ผมเอาผ้าผูกคอลูกเสือของผม ให้เพื่อนๆเซนต์ชื่อไว้ ผมเอาให้เธอเขียนด้วย และเธอได้เขียนคำคำนึงที่เธอไม่เคยบอกจากปากเธอเลยตลอด 6 ปีทีผมรอคำคำนี้ ซึ่งตอนนี้ ผมไม่สนใจแล้ว ว่าความหมายของคำนั้นที่เธอเขียนมานั้นเธอเขียนด้วยความรู้สึกแบบไหน แต่มันก็ทำให้สิ่งที่ผมทุ่มเทให้เธอนั้นไม่เสียเปล่า

หลังจากนั้น ก็เคยเจอกันสองสามครั้ง และทุกครั้งที่เจอก็เป็นสถานที่ที่ผมชอบไปตลอด สถานีรถไฟนั่นเอง แต่มันเหมือนกับฟ้าต้องการจะบอกอะไรเราอีกครั้งนั่นแหละครับ ทุกครั้งที่เจอนั้น รถไฟสองขบวนที่ต่างคนต่างขึ้นนั้น จุดหมายก็ไปกันคนละทาง เหมือนกับการที่จะต้องเดินไปกันคนละทางแบบนี้ตลอดไป

มันมีเรื่อง ที่เคยได้คุยกันผ่าน MSN นิดหน่อย เกี่ยวกับเรื่องตัวผมและเธอ ผมเคยถามเธอไปตรงๆครั้งนึง (ตอนนั้นผมมีแฟนแล้ว เลยใช้เหตุผลที่ว่า เค้าไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว) ผมถามไปว่า เคยมีความรู้สึกว่าชอบเราบ้างไหม คำตอบที่ได้นั้น เธอไม่บอกว่าชอบ แต่เธอบอกเธอมีความรู้สึกว่า "รัก" ผู้ชายคนนี้ แต่ที่เธอไม่บอกเรา เพราะตอนนั้น เธอยังไม่ต้องการมีใคร เพราะเธอชอบชีวิตอิสระ ไปกับเพื่อนอะไรทำนองนั้น เธออยากจะเรียนหนังสือให้จบ โดยที่ไม่ต้องมีใครมาคอยเป็นห่วง (ค่อยมีตอนมีการมีงานทำแล้วนั่นแหละ) เธอถามผมว่า เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ยังจะรักเธออยู่ไหม ให้เวลาเธอได้ไหม เวลาอีกเกือบ 10 ปี ตอนนั้นผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะผมเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกอะไรเธอไปว่าผมจะรอ หรือไม่รอ เพราะตอนนั้นมันสายเกินไปที่ผมจะให้คำตอบเธอแล้ว


จบแล้วครับ และมีเรื่องสั้นต่ออีกหน่อยเล็กน้อย

พอดีไปเปิดกล่องของปัจฉิมม. 6 ดู คนที่ให้ลูกอม กับอมยิ้มมา ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถดูแลรักษาได้ - -" โดนมดทะลวงไปหมดแล้วง่ะ ผมจะเอากล่องนี้ไปทุกทีที่ผมไปอยู่ ผมมาอยู่มหาลัย ผมก็เอามาไว้ที่หอ และถ้าผมเรียนจบ ทำงานแล้วไปอยู่ที่ไหน ผมก็จะเอามันไปด้วย เพราะมันเป็นความทรงจำดีๆในวัยมัธยม ผมจะมีความรู้สึก ว่ามีเพื่อนๆไปด้วยเสมอ

ในนั้นมีความลับอยู่ด้วย แต่ ไม่บอกแล้วกัน มันเกี่ยวกับคนที่ทำให้ผมเจ็บจนทุกวันนี้ แต่ผมอยากจะเก็บบางอย่างนั้นไว้ ไว้เป็นความทรงจำดีๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนเศษกระดาษยับๆ เยินๆบ้างก็ยังดี


ยินดีที่ได้รู้จัก แค่รู้ว่า"รัก"ก็พอใจ

 
ปล. หากเจ้าของลายเซนต์นี้หลงเข้ามาอ่าน หรือมีใครพบเห็นแล้วเชิญมาอ่าน ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ

"ผมยังรักคุณไม่เสื่อมคลาย และเรื่องบางเรื่องที่คุณเคยบอกผมไว้ แล้วผมไม่สามารถทำมันได้ตอนมัธยม ตอนนี้ผมทำมันได้แล้ว 'การรอคอย' จะไม่ออกไปตามหาที่ไหนแล้ว จะรอจนกว่าจะมีใครสักคนผ่านเข้ามาเองนั่นแหละดีที่สุด อาจเป็นใครก็ได้ ที่รัก และพร้อมจะอยู่กับเรา ใช้ชีวิตกับเราไปตลอดชีวิต โดยแค่ต้องการสิ่งเดียวสิ่งที่เรียกว่า 'รัก' จากเราเพียงคำเดียวเท่านั้น"




... นี่คือทำนองแห่งความหลังระหว่างเรา
ได้ยินเมื่อไรยิ่งนึกถึงวันเก่า
เนิ่นนานแค่ไหน
แต่เพลงนี้ของเรายังทุ้มอยู่ในใจ

เพลงแห่งความรักที่เธอร้องเป็นอย่างไร
วันที่เงียบเหงา
เธอจะคิดถึงเพลงของใคร
ตั้งแต่จากกัน
วันนี้เธอเป็นไงฉันอยากจะรู้

เมื่อนาฬิกามันไม่เคยขี้เกียจเดิน
และวันเวลาทำให้ทุกๆสิ่งเปลี่ยนไป
แต่ความทรงจำดีๆทุกอย่างยังคงเก็บไว้

ยังคงมีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ยังมีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา
ยังคงมีบทเพลง ของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไร หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ

วันที่ความฝันมันไม่เห็นเป็นอย่างใจ
กระเจิดกระเจิง ผิดๆเพี้ยนๆกันไปใหญ่
เพียงแต่อย่างน้อย
ฉันก็ยังชื่นใจที่เคยมีเธอ

ก็นาฬิกามันไม่เคยขี้เกียจเดิน
และวันเวลาทำให้ทุกๆสิ่งเปลี่ยนไป
แต่ความทรงจำดีๆทุกอย่างยังคงเก็บไว้

ยังคงมีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ยังมีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา
ยังคงมีบทเพลง ของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไร หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ

ต่อให้เราไม่พบไม่เจอเป็นปี
เพลงนี้ยังทุ้มในใจ ~*

อืม..ดีๆ ใช้ได้

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ
2

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (2 คน)

ความคิดเห็น ความคิดเห็น (1 ความคิดเห็น)

ตอบกลับ matga_fun 22-3-2011 10:41
อ่ะน่ะ

facelist doodle วาดภาพ

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|หนูนา แฟนคลับ สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.

GMT+7, 16-5-2024 05:14

Powered by Discuz! X2.5 Release 20120901

© 2001-2012 Comsenz Inc.