[Magazine] บทสัมภาษณ์ "เต๋อ-หนูนา" พากวนนอกจอ ในหนังสือพิมพ์ ม.ธรรมศาส

Pleng

?คนเราไม่จำเป็นว่าจะต้องรู้จักกันนานเป็นสิบปี ถึงจะรู้ว่าเรารักเขา บางทีเจอกันไม่กี่วัน ถ้าคุยกันแล้วทุกอย่างมันลงตัว เราก็รู้สึกว่าใช่ บางทีความรักมันก็ไม่ต้องการเวลาจริงๆ? --- หนูนา หนึ่งธิดา (4 กันยายน 2553)

คราวที่แล้วผมได้นำบทสัมภาษณ์ "เชียร์ ฑิฆัมพร" จากหนังสือพิมพ์ "มหาวิทยาลัย" ของ ม.ธรรมศาสตร์ มาฝากกัน มาถึงคราวนี้ไม่น่าเชื่อ
อีกเช่นเคยว่าจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์พระเอก-นางเอกร้อยล้านคนล่าสุด

หลังจากติดต่อไปที่จีทีเอชแล้ว ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ตอบตกลง หนังสือพิมพ์ "มหาวิทยาลัย" ปีที่ 53 ฉบับสุดท้ายของปีนี้ก็ไม่รอช้า รีบไปพูดคุยกับ 2 นักแสดงนำอย่าง เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ ที่จะมาสร้างความกวน มึน โฮ นอกจอ ให้ผู้อ่านได้นั่งอมยิ้มไม่ต่างจากการเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว

ปล.เจอตัวจริงน้องหนูนาน่ารักมากกกกครับ เป็นกันเอง ขี้เล่น เมาท์เก่ง
ส่วนพี่เต๋อก็กวนเหมือนในหนังนั่นแหละครับ 55


>>>เป็นอย่างไรบ้างกับกระแสตอบรับของหนังเรื่องนี้

หนูนา: เรียกว่าเกินกว่าคำว่า พอใจแล้วค่ะ พอใจมากๆ (ลากเสียงยาว) รู้สึกตื่นเต้น ตื้นตันใจที่มีคนมาชมหนังเราเยอะค่ะ
เต๋อ: (เคยคิดมาก่อนหรือเปล่าว่าวันหนึ่งหนังจะได้ร้อยล้าน) ไม่คิดเลย ตอนแรกคิดว่ามันไม่เจ๊งก็โอเคแล้ว ได้ 50-60 ล้านผมก็รู้สึกโอเคมากๆ แต่มันมาถึงร้อยล้านก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่

>>>คิดว่าอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดนใจผู้ชม

เต๋อ: ในเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่ามีความรักหลายมุมมอง มุมมองเกี่ยวกับชายหญิงที่แตกต่างกัน พอมาอยู่ในหนังก็เป็นธรรมดาที่คนที่เคยมีหรือกำลังมีความรักอยู่เข้าไปดูก็จะรู้สึกอิน พอออกมาก็จะพูดถึงกัน ทำให้เกิดกระแสที่คนพูดถึงเรื่อยๆ แล้วคนก็มาดูกันเยอะ บางคนก็มาดูหลายรอบ

>>>ทำไมผู้กำกับถึงเลือกพี่เต๋อกับหนูนามาเป็นพระเอก-นางเอกเรื่องนี้ครับ

หนูนา>> หนูนามาจากโครงการประกวดลักซ์ปั้นดาวค่ะ ก็จะเป็นการประกวดหาคนที่มีผิวดี และมีความสามารถทางการแสดงด้วย หนูนาได้รางวัลชนะเลิศมาก็เลยมีโอกาสได้เป็นนางเอกหนังเรื่องใหม่ของจีทีเอชด้วยค่ะ

เต๋อ>> ส่วนผมกับพี่โต้ง ผู้กำกับเคยร่วมงานกันในฐานะผู้เขียนบทมาก่อนในเรื่อง สี่แพร่งและห้าแพร่ง พอมาเรื่องนี้พี่โต้งอ่านหนังสือเรื่องสองเงาในเกาหลี ก็เลยชอบและอยากทำเป็นหนัง แต่ว่าใส่อารมณ์กวนๆ ประชดประชันในแบบของตัวเองเข้าไป ผมเคยร่วมงานกันมา พี่โต้งเห็นว่าผมมีแง่มุมด้านนี้เยอะ เลยชวนมาเขียนบทด้วยกัน พอเขียนบทตัวละครก็กวนๆ ฮาๆ ดูแล้วมันเป็นตัวเรามาก พี่โต้งก็เลยให้เล่นเรื่องนี้ไปด้วย

>>>แสดงว่าตัวจริงของพี่เต๋อก็กวนเหมือนในหนังเลย

หนูนา>> กวนค่ะ กวนประสาททุกอย่าง ชอบติ ชอบว่า ชอบหาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาทำให้ทุกคนขำค่ะ (ยิ้ม) แต่มันก็เป็นข้อดีนะคะ อย่างเช่นเวลามีคนเศร้าๆ อยู่ ก็จะเป็นคนกระตุ้นให้บรรยากาศดีขึ้น

>>>แล้วหนูนาล่ะครับ ในหนังกับตัวจริงต่างกันมากหรือเปล่า

เต๋อ: ต่างนะผมว่า แต่ก็ยังมีความเป็นตัวเองอยู่ เพราะจะต่างตรงที่อายุครับ คือ ตัวละครนี่วัยวุฒิจะมากกว่าหนูนา
หนูนา: แล้วก็จะแบบว่านิ่งกว่า ซีเรียสกว่าในบางครั้ง (แสดงว่าตัวจริงเป็นสนุกสนาน) ตัวจริงเป็นคนเครียดๆ ค่ะ
เต๋อ: เครียดบ้าอะไรล่ะ (หันไปมองหนูนา) ตัวจริงเป็นคนติงต๊อง เล่นโน่น เล่นนี่
หนูนา: (แสดงว่าก็มึนเหมือนในหนังใช่ไหมครับ) มึนไหม ก็ไม่มึนนะคะ (หัวเราะ)
เต๋อ: มึนเหมือนหนังเลย ซุ่มซ่าม ทะเล่อทะล่าอะไรแบบนี้
หนูนา: ทะเล่อทะล่าเลยเหรอ (หัวเราะ)

>>>แล้วหนูนาต้องเปลี่ยนลุคเยอะไหมครับ เพราะปกติจะเล่นละครที่ตรงกับวัยของตัวเอง

หนูนา: เปลี่ยนเยอะค่ะ ทั้งตัดผม ทำสีผม เปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมดเลย เปลี่ยนการแต่งตัวด้วย
เต๋อ: เขาต้องเล่นเป็นคนอายุ 22-23 ปีครับ ซึ่งมากกว่าตัวจริง 3-4 ปี แต่เขาก็มีโครงหน้าของความอายุมากอยู่แล้วนะครับ
หนูนา: อ้าว! ด่ากันเลย (หัวเราะ)

aong3610

2 คนนี้ จะว่าไปดูเหมาะสมกันดีเหมือนกันนะ ถ้าไม่ได้ดูหนังมาก่อน คิดว่าเป็นแฟนกันแน่ๆ

compninja

2 คนนี้ จะว่าไปดูเหมาะสมกันดีเหมือนกันนะ ถ้าไม่ได้ดู ...
aong3610 เมื่อ 11-9-2010 19:42

พี่อ๋องพูดแบบนี้เด๋วหนูนาก้องานเข้าหรอกครับ

khingnung

ขอบคุณครับ น้องสัมภาษฮาดีเต๋อก็กวนตลอด

Pleng

>>>นอกจากเป็นพระเอกแล้วพี่เต๋อยังเขียนบทอีกด้วย ตอนเขียนบทได้ใส่ความเป็นตัวเองไปมากน้อยแค่ไหนครับ

หนูนา: เยอะมากค่ะ เล่นได้เป็นธรรมชาติมากๆ (หัวเราะ)
เต๋อ: ต้องบอกก่อนว่าตัวจริงผมไม่ได้เถื่อนอะไรขนาดนั้น เพราะผมยังมีความติงต๊องแบบเด็กๆ อยู่ แต่ว่าพออยู่ในหนัง
คือเราค่อนข้างโตแล้ว ก็จะจิกกัดในทำนองเป็นผู้ใหญ่

>>>มีฉากไหนที่พี่เต๋อเขียนบทแล้วรู้สึกว่า กวนได้ใจ ตัวเองคิดได้ไงเนี่ย

เต๋อ: น่าจะเป็นฉากกินปลาหมึกนะครับ (พี่กินจริงๆ หรือเปล่า) กินจริงๆ แต่ไม่ได้กลืนลงไปนะ เพราะผมไม่ต้องการจะฆ่ามัน ผมก็เลยอมหัวไว้เฉยๆ มันก็เลยต่อสู้ แล้วปากผมก็เลยบวมอย่างที่เห็น คือมันดูดปากผมครับ ผมก็เลยดึงออกมา ปากก็แตก เลือดทะลัก (แล้วเนื้อหมาล่ะครับ) เนื้อหมานี่ไม่ได้กินจริงครับ คือบางอย่างที่เราเซฟตัวเองได้ก็เซฟ ใครจะไปอยากกินหมาใช่ไหม

>>>บรรยากาศการถ่ายทำที่เกาหลีเป็นอย่างไรบ้าง

หนู นา: ก็ถ่ายที่เกาหลี 2 เดือนค่ะ (ได้กลับมาเมืองไทยบ้างหรือเปล่า) ของหนูนาไปอยู่ 2 เดือนเต็ม ไม่ได้กลับมาเลย แต่พี่เต๋อจะได้กลับมาถ่ายโฆษณาที่เมืองไทยค่ะ เพราะตอนนั้นเขาเป็นหนุ่มฮอต (ยิ้ม) ทุกคนต้องการตัว แย่งตัวกันเยอะแยะมากมาย แล้วพี่เต๋อเขาก็บอกว่า พอก่อนๆ ต้องถ่ายหนัง รับโฆษณาตัวเดียวแล้วกัน ความจริงติดต่อมา 20-30 ตัวเลยนะ (ยิ้ม)
เต๋อ: ความจริงมีอันเดียวนั่นแหละครับ (หันไปมองหนูนา)

หนู นา: (แล้วสภาพบ้านเมืองเขาเป็นอย่างไรบ้างครับ) ดีค่ะ สวย มีวัฒนธรรมหลายอย่างที่เราไม่เห็นเคยเห็น เพราะหนูเพิ่งไปต่างประเทศครั้งแรกด้วย (ชอบอะไรที่เกาหลีบ้าง) ชอบทุกอย่าง เพราะชอบเกาหลีอยู่แล้ว ชอบเพลงอะไรแบบนี้ค่ะ เป็นตัวแม่เลย (ยิ้ม)
เต๋อ: เขาจะเป็นคนชอบบอยแบนด์เกาหลี ซีรี่ส์ หนังเกาหลี คือบ้าเกาหลีน่ะครับ อันนี้ตรงกับหนังมากๆ ตรงจนน่าตกใจ
หนูนา: (หัวเราะ) ถูกค่ะ

>>>ในกองถ่ายมีเรื่องฮาๆ อะไรบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ

เต๋อ: เรื่องฮาๆ มันฮาเยอะนะครับ ที่เราเห็นในตลกๆ ในหนัง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องฮาในกอง บางอันคิดเล่นๆ พี่โต้งเขาก็ชอบ อย่างเช่นตอนที่ผมด่าหนูนาว่า อีหนวด หูกาง ก็ด่าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะในบทมันไม่ได้มีแบบนี้ คิดขึ้นมาเองแล้วก็ด่าไป
หนูนา: (แต่หนูนาด่ากลับไปแค่คำเดียวเอง) นั่นก็มาจากใจจริงเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)
เต๋อ: มีเรื่องตลกๆ เยอะครับ หนูนาเขาเป็นคนซุ่มซ่าม ก็เป็นที่มาของฉากที่เขาล้มอยู่ในหนัง วิ่งๆ ไปแล้วล้ม อันนี้ล้มจริง
หนูนา: ตัดภาพมาอีกทีนี่คือเลือดโชกเลยค่ะพี่

>>>เห็นว่าพี่เต๋อได้รับอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำในฉากที่วิ่งตามหนูนาด้วย

หนูนา: เขาเจ็บนิดเดียว แต่แกล้งทำเป็นเจ็บเยอะค่ะ เล็บแค่ฉีกเอง (ยิ้ม)
เต๋อ: เจ็บเยอะๆ คือต้องกระโดดข้ามที่กั้น แล้วก็ต้องล้ม แล้วพอล้มหลายทีก็เป็นธรรมดาที่ต้องเจ็บตัว ล้มเป็น 10-20 รอบ ก็เริ่มหัวเข่าช้ำ
หนูนา: ทำเป็นเจ็บเยอะ หนูเห็นนะแผลมีนิดเดียว
เต๋อ: แต่ที่เจ็บเยอะจริง คือ ไม้สกีแทงตา ฉากแรกที่ไปถ่ายทำ หนูนาเดินมายังไงไม่รู้ เอาไม้มาแทงตา

@@@_ann_@@@

ว๊าว ๆ ๆ ๆ ๆ ^^

Evilmonkey'

น่ารักกกกกกกกก ^^

Pleng

>>>คิดว่าฉากไหนที่เล่นยากที่สุด

หนู นา: ของหนูจะเป็นฉากที่โดนด่าว่า อีหนวด หูกางค่ะ กว่าจะได้ตอนที่หนูพูดตอนสุดท้ายนะ เขาให้หนูทำหลายอย่างมาก จนให้เราลองเล่นเป็นตัวเองขึ้นมา ถึงจะได้ฉากนี้ และคำที่ด่ามา มันทำให้หนูอยากร้องไห้ค่ะ ตาหนูแดง น้ำตาคลอเลยค่ะพี่
เต๋อ: ความจริงแล้วผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ
หนูนา: เขาคิดจริงๆ ค่ะ พูดไม่ซ้ำกันเลย เขาด่าหนูแรงมาก หนูต้องพยายามกลั้นน้ำตา เสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะพี่
เต๋อ: ผมไม่ใช่คนแบบนี้ครับ มันเป็นการแสดง ผมเป็นตัวละคร เลยต้องทำแบบนี้ (แล้วพี่เต๋อไม่ปลอบน้องเหรอครับ) ไม่ปลอบครับ
หนูนา: นอกจากไม่ปลอบนะคะ หนูล้ม พี่เขายังข้าม ยังไม่พอ หันหลังมาหัวเราะอีก (ยิ้ม)

เต๋อ: (แล้วฉากที่ยากที่สุดของพี่เต๋อล่ะ) เป็นฉากดราม่าครับ เพราะต้องเสียน้ำตา ร้องไห้ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยร้องไห้อยู่แล้ว ผมก็ไม่เคยเล่นอะไรที่มันดราม่ามาก (แล้วตอนร้องไห้นึกถึงอะไร) นึกถึงชีวิตบ้าง ความรักบ้าง ครอบครัวบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นความรัก
หนูนา: พูดเรื่องครอบครัวไม่ร้องนะคะ พูดเรื่องแฟนปุ๊บเหมือนบ่อน้ำพุแตกเลย
เต๋อ: ไม่ๆ มันเสริมกันๆ
หนูนา: จริงๆ นะคะ
เต๋อ: หนูนา....!! (ทำเสียงตวาดและทำหน้าดุ)
หนูนา: (หัวเราะ)

>>>แล้วฉากที่ชอบที่สุดละครับ

หนูนา: หนูชอบฉากที่นั่งมอเตอร์ไซค์ค่ะ
เต๋อ: ชอบเพราะว่ามือมันตกลงมาไง ชอบตรงนั้นแหละ
หนู นา: ใช่ค่ะ ความจริงก็เป็นเพราะว่าเรื่องนั้นแหละค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ ไม่ได้ชอบตรงนั้น (หัวเราะ) หนูชอบดอกซากุระ มีต้นซากุระเรียงเต็มถนนไปหมดเลย เพราะว่ามันสวยมาก
เต๋อ: ของผมชอบฉากลานสกีครับ เพราะว่าเป็นฉากแรกที่ถ่ายทำ เราไปถึงเกาหลีก็ได้ถ่ายฉากนี้เลย ซึ่งเป็นฉากที่มีหิมะ มีสกีด้วย และก็เป็นฉากโรแมนติก บรรยากาศมันใช่เลย
หนูนา: แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ ที่สุดแล้ว (ร้องเพลง)

>>>สมมติว่าพี่เต๋อกับหนูนาไม่รู้จักกันแล้วต้องไปเที่ยวกัน 2 คนเหมือนในหนัง จะทำอย่างไร

หนู นา: หนูคงไม่เข้าไปพี่เต๋อตั้งแต่แรกแล้ว คือ ดูจากหน้าตาแล้วนะคะพี่ อันตรายค่ะผู้ชายคนนี้ ดูน่ากลัว ดูโหด ถ้าเกิดไปช่วยเขา เขาอาจจะเอามีดมาฆ่าหนูได้เลย ดูจากนิสัยแล้ว หนูก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับพี่เต๋อตั้งแต่แรก ก็จะปล่อยให้นอนอยู่ตรงนั้นค่ะ (ยิ้ม)
เต๋อ: ถ้าเป็นผม ผมก็คงตามไปเรื่อยๆ เขาไม่ให้ไป ผมก็ไปอยู่ดี ถ้าพยายามจะหนี ผมก็จะตาม แล้วพอเขาหลับ ผมก็จะเอาเงินเขาไป พูดเล่นๆ นะครับ จริงๆ แล้วการเดินทางไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้จักกันมันเกิดขึ้นยากในความเป็นจริง ยกเว้นว่ามันมีเบื้องหลังที่แบบใกล้เคียงกัน เช่น เคยเรียนที่เดียวกันมาก่อน มันก็อาจจะพอเป็นไปได้

Pleng

>>>สมมติว่าในหนังหลังจากที่ทั้ง 2 คนกลับจากเกาหลี แล้วมีโอกาสพบกันที่เมืองไทยอีกครั้ง จะพูดอะไรกับอีกฝ่ายหนึ่งครับ

เต๋อ: ถ้าเป็นผมก็คงพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไร ก็คงยิ้มแล้วก็ถามว่า เขาชื่ออะไร
หนู นา: ของหนูก็คงถามว่า อ้าว! เป็นไง ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป แต่เอาจริงๆ แล้วนะคะ หนูคิดว่าหนูก็ยังไม่บอกชื่อ คือ เล่นตัวไงคะ ผู้หญิงก็อย่างนี้แหละพี่ ไม่สวย ไม่เริ่ด ทำไม่ได้นะคะเนี่ย (หัวเราะ)
เต๋อ: ไปเล่นไกลๆ ไป

>>>คิดว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดูบ้าง

เต๋อ: หนังให้แง่มุมของการทำความรู้จักกันของคน 2 คน เพราะดูเหมือนว่าทุกวันนี้เรามีเพื่อนเยอะแยะเต็มไปหมด ถามว่าตอนนี้เรารู้ไหมว่าเขาเศร้า เขารู้สึกอะไรในใจ เราไม่รู้ เพราะว่าเราไม่ได้สนใจที่จะทำความรู้จักเขาจริงๆ ในขณะที่บางคนเราไม่รู้จักชื่อเขา แต่เรามีความสนใจที่ทำความรู้จักเขา เรารู้ว่าเขาทำแบบนี้แสดงว่าเขาไม่สบายใจ เขาทำแบบนี้เวลาเขาโกรธ คือ ผมอยากให้ทุกคนเรียนรู้คนที่อยู่ข้างมากขึ้น แล้วเราก็จะได้เพื่อนแท้ ได้มิตรภาพที่ดี ตอบอย่าให้เหมือนกันนะหนูนา
หนูนา: ใช่ค่ะ หนูก็เห็นตามที่พี่เต๋อพูดทุกอย่าง (ยิ้ม)
เต๋อ: เฮ้ยๆ ! (ตบโต๊ะ)
หนู นา: คนเราไม่จำเป็นว่าจะต้องรู้จักกันนานเป็นสิบปีถึงจะรู้ว่าเรารักเขา บางทีเจอกันไม่กี่วัน ถ้าคุยกันแล้วทุกอย่างมันลงตัว เราก็รู้สึกว่าใช่ บางทีความรักมันก็ไม่ต้องการเวลาจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) ลมหายใจ....(ร้องเพลงอีกแล้ว)

>>>หลังจากหนังเรื่องนี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนๆ ได้ชมอีกบ้าง

หนูนา: ก็อาจจะมีโอกาสได้ทำเพลง เป็นซิงเกิลเดี่ยวค่ะ ก็ให้ติดตามกันต่อไปว่าเป็นเพลงอะไร ที่ไหน ยังไง
เต๋อ: ก็มีโปรเจคที่จะเขียนบทต่อครับ แต่ว่าเรื่องของการแสดงเนี่ยยังไม่แน่ใจ (แล้วจะมีโอกาสเห็นพี่เต๋อเป็นผู้กำกับหรือเปล่า) หวังว่านะ ก็อยากทำหนังตลก มันเป็นตัวเองที่สุดแล้วครับ

ยาวเว่ออออออ แต่อยากโพสให้ครบในเวบของเราาาาาา อิอิ

หนูนาน่าร๊ากมากกกก

Credit : http://www.pantip.com/cafe/chale ... 78255/A9678255.html

Jheng

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟ  เต๋อจะกวนไปไหนเนี่ยยย :lol