- ล่าสุด
- 24-1-2019
- โพสต์
- 4378
- ลงทะเบียน
- 2-9-2010
- สำคัญ
- 24
       
- โพสต์
- 4378
- โรฮัน
- 13499
|
โพสต์เมื่อ 5-1-2011 20:16:16
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nikkung เมื่อ 23-5-2011 22:37
ส่งท้าย "กวน มึน โฮ" ต้อนรับ "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก"/ไก่ อำนาจ จากผู้จัดการออนไลน์
ปีที่ผ่านมามีภาพยนตร์ไทยในกระแสอยู่ 2 เรื่องที่ดูเหมือนจะถูกพูดถึงมากพอสมควรทีเดียวสำหรับคนที่ได้มีโอกาสไปชมกันมาในฐานะหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่สนุก-น่าดู
หนึ่งคือ "กวน มึน โฮ" จากค่ายจีทีเอชผลงานการกำกับของคุณโต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่กวาดรายได้ไปกว่า 135 ล้านบาท
เรื่องที่สองคือ "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" ของค่ายสหมงคลฟิล์มฯ+เวิร์คพอยท์ฯฝีมือการกำกับของคุณวศิน ปกป้อง และคุณพุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำรายได้ไปไม่น้อยเช่นกันกว่า78 ล้านบาท
เล่าให้ฟังคร่าวๆสำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม..."กวน มึน โฮ"นั้นว่าด้วยเรื่องของหนุ่มไทยจอมกวนคนหนึ่ง (เต๋อ” ฉันทวิชช์ ธนะเสวี)ที่ซื้อทัวร์ไปเที่ยวเกาหลีเพราะแอบหวังว่าจะได้เจอกับแฟนที่ทิ้งเขาไปเนื่องจากเขาไม่พร้อมที่จะแต่งงานด้วยก่อนที่เขาจะได้พบกับหญิงไทยคนหนึ่ง(หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ)ที่โกหกแฟนในการมาที่เกาหลีก่อนอีกฝ่ายจะจับได้และบอกเลิกเธอข้ามประเทศกระทั่งได้ก่อเกิดเป็นความผูกพันอะไรบางอย่างขึ้นมาโดยที่ทั้งสองต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีชื่อเสียงเรียงนามจริงๆว่าอะไร
ในขณะที่ "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก" นั้นพูดถึง "น้ำ" (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนกลือวิเศษไพบูลย์)เด็กสาวม.ต้นซึ่งซุกซ่อนความน่ารักไว้ในหน้าตาที่แสนขี้เหร่ที่หลงใหลรุ่นพี่ม.ปลายสุดเพอร์เฟ็กต์"โชน" (มาริโอ้ เมาเร่อ) และพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้พระเอกของเราหันมามองโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็แอบปลื้มเธออยู่แต่ไม่สามารถแสดงออกได้กระทั่งถึงวันที่ทั้งสองต้องแยกย้ายไปทำตามเส้นทางของตัวเอง
ด้วยความเป็นภาพยนตร์ในแนวเดียวกันหลังหนังทั้งสองเข้าฉายจึงทำให้มีบางส่วนอดไม่ได้ที่จะเอากวน มึน โฮ กับ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก มาเปรียบเทียบกันทำนองที่ว่าเรื่องไหนสนุกกว่า เรื่องไหนตลกกว่าเรื่องไหนชวนประทับใจ เรื่องไหนน่าดูกว่ากัน
รวมไปถึงที่ว่านางเอกระหว่างหนูนาใบเฟิร์นใครน่ารักกว่า ใครแสดงได้ดีกว่า
จากบทสรุปจากคนรอบข้างที่ว่าหนังทั้งสองเรื่องนี้สนุกน่าดูและนางเอกน่ารักนี่เองที่ทำให้ผมต้องเก็บเอาหนังทั้งสองเรื่องมาดูในคืนวันที่ 31ธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อเป็นการฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2553 ต้อนรับปีใหม่ 2554
ผลที่ออกมาก็คือเป็นการฉลองที่น่าประทับใจและมีความสุขดีทีเดียวครับ
โดยรวมผมชอบทั้งสองเรื่องครับและต้องบอกว่าสนุกกันไปคนละแบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด มุมมองเกี่ยวกับความรักตลอดจนภาษาที่ใช้ ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะตัวละครนั้นอยู่กันคนละวัยอยู่กันคนละสังคม อย่าง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ก็เป็นเรื่องความรักของเด็กมัธยมต่างจังหวัดดูใสซื่อๆ จริงใจ ขณะที่ กวน มึน โฮ ก็เป็นเรื่องของวัยรุ่นในเมืองเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ค่อนข้างจะมีฐานะ เรียนปริญญา อยู่ในยุคทองของเกาหลีฟีเวอร์ชีวิตส่วนหนึ่งผูกอยู่กับข้อมูลข่าวสารทางโลกไซเบอร์
อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนต่างจังหวัดก็ได้ครับที่ทำให้ผมค่อนข้างจะดูสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก แล้วมีอารมณ์ร่วม มีความสุขแบบอิ่มๆ มากกว่าโดยเฉพาะในส่วนของบรรยากาศความเป็นต่างจังหวัดที่เห็นแล้วก็ชื่นใจไปกับความสวยงามแบบสงบเรียบง่าย
แต่ถ้าถามถึงความเป็นภาพยนตร์ที่สามารถดึงเอาอารมณ์ให้ต้องคิดและรู้สึกตามตัวละครมีการพัฒนาการในเรื่องของความคิด อารมณ์ ดูแล้วรู้สึกได้ถึงความผูกพันผมว่า กวน มึน โฮ สามารถทำและสื่อตรงนี้ออกมาได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากพระเอกของเราจุ๊บนางเอก
นอกจากนี้หนังยังทำให้เห็นด้วยว่าเด็กรุ่นใหม่ในบางสังคมมีพฤติกรรมความคิดอย่างไรเช่น กล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น ตลอดจนคำว่าไอ้เหี้ยไอ้สัตว์ได้กลายเป็นคำสร้อยปกติของการพูดไปแล้ว ในขณะที่เมื่อ "ถึงเวลา"ที่จะต้อง "ตัดสินใจ" อะไรบางอย่างดูเหมือนว่าอารมณ์ความรู้สึกในห้วงเวลานั้นของพวกเขาและเธอจะมีอิทธิพลอยู่เยอะทีเดียว
มุกตลกเรื่องหนึ่งขำแบบฮาๆ ตามประสาเด็กๆ อีกเรื่องค่อนข้างจะออกแนวขำแบบกวนตีนๆใช้การแซว ประชดแดกดัน ซึ่งผมว่าคนที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่น่าจะเข้าใจและตลกไปกับสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก มากกว่า กวน มึน โฮ อันนี้วัดเอาจากปฏิกิริยาของแม่ผมนะครับเพราะเห็นแกยิ้ม หัวเราะไปกับสิ่งเล็กๆ ได้ตลอดเรื่อง ทว่ากับเรื่อง กวน มึน โฮแกกลับดูไม่จบ (ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารักนั้นมีคุณตุ๊กกี้แสดงก็เป็นไปได้)
ตอนจบทั้งสองเรื่องใช้วิธีเล่นกับ"เวลาที่ผ่านไป" เหมือนกัน แต่โดยรวมผมว่า กวน มึน โฮจบได้ค่อนข้างมีอะไรชวนให้น่าประทับใจและน่าคิดมากกว่า สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารักซึ่งดูจะน้ำเน่าไปนิด
อย่างไรก็ตามประเด็นที่ผมถือว่าสำคัญไม่น้อยจากหนังทั้งสองเรื่องนี้ที่ชวนให้น่าชื่นใจก็คือการได้เห็นบุคลากรในแวดวงภาพยนตร์ที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคุณเต๋อที่นอกจากจะแสดงได้เป็นธรรมชาติแล้วเจ้าตัวยังยืนอยู่เบื้องหลังในฐานะของคนเขียนบทอีกต่างหาก
เช่นเดียวกับผู้กำกับมือใหม่แต่หน้าเก่าอย่างพี่เพชรพุฒิพงษ์ หรือ "เสนาเพชร"ที่หลายคนคุ้นหน้ากันดีจากรายการยุทธการขับเหงือกโดยจากผลงานชิ้นแรกที่ออกมาต้องบอกว่าสอบผ่านอย่างสวยงามซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าพี่เพชรนี่แหละครับที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์อีกคนหนึ่งของบ้านเราที่ในอนาคตคนดูหนังสามารถจะฝากความหวังและไว้วางใจได้ในเรื่องคุณภาพของงานที่จะออกมา
ยกตัวอย่างจากหนังสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก กับการวางบทให้กับคุณตุ๊กกี้ แสดงที่ต้องบอกว่าพอเหมาะ พอดีเด่นแต่ไม่โดดเด้ง เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงความสามารถอย่างแท้จริงไม่ใช่จับยัดเธอเข้ามาเพราะเธอกำลังดัง แล้วก็ปล่อยให้เธอทำตลกไปเรื่อยเปื่อยเลอะเทอะเหมือนกับภาพยนตร์ตลกประเภทตีหัวเข้าบ้านหลายต่อหลายเรื่องที่เอาตลกมาเล่นมักจะทำกัน
ส่วนเรื่องของนางเอกทั้งน้องหนูนา กับน้องใบเฟิร์น ผมว่าน่ารัก สดใส และแสดงได้อย่างสมวัยทั้งคู่
ซึ่งถ้าจะให้ตัดสินผมก็คงจะต้องร้องเพลงของคุณชาคริต แย้มนามที่ว่า...ไม่รู้จะเลือกใคร...ต่อด้วยเพลงของคุณทาทา ยังว่า...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน...นั่นแหละครับ
เฮ้อ...เห็นผู้หญิงน่ารักๆแล้วก็เศร้า ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งปี อย่างไรปีใหม่ปีนี้ก็ขอสักคนเถอะเจ้าประคุณ...
|
ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง
คุณจำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อน หลังจากนั้นจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีสมาชิก กรุณาลงทะเบียน
|