แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nikkung เมื่อ 23-5-2011 22:58
ทุก ๆ ปีวงการบันเทิงไทยจะมีดาวมาประดับฟ้าเปล่งแสงเจิดจรัสอยู่เสมอ ปี พ.ศ. 2553 นี้ก็เช่นกันมีดาวรุ่งพุ่งแรงทั้งชายและหญิงมาสร้างสีสันในจอแก้วและจอเงินหลายต่อหลายคน
ที่มาแรงแซงโค้งกระหน่ำซัมเมอร์เซลก็คือทีมนักแสดงหน้าใหม่จากละครเรื่อง “เงารักลวงใจ”
ทั้ง หมาก-ปริญ สุภารัตน์, แบรี่-ณเดชน์ คูกิมิยะ, มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา และ กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์เหลืองอุทัย ที่เล่นได้เข้าตาคนดูเหลือเกินโดยเฉพาะสองหนุ่มที่ความหล่อก็ยังเข้าตาสาว ๆ อีกด้วย อย่าง “ณเดชน์”
ก็เพิ่งได้รับฉายาจากสมาคมนักข่าวบันเทิงว่า “ซุป’ตาร์พันธุ์ข้าวเหนียว” มาหมาด ๆจากความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตนเองแถมตอนนี้ยังเนื้อหอมงานอีเวนต์และพรีเซ็นเตอร์รุมตอม รับทรัพย์กันไม่หวาดไม่ไหว
ทั้งหนุ่ม “ณเดชน์”
กับหนุ่ม “หมาก”
ก็มีละครให้แฟน ๆ ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันต่ออย่าง “ดวงใจอัคนี” และ “ปฐพีเล่ห์รัก”
ตามลำดับ ซึ่งเป็นซีรีส์ในละครชุด “4 หัวใจแห่งขุนเขา” ฉลอง 40ปีช่อง 3 นั่นเอง ส่วนสาว “มิ้นท์” ก็มีงานละคร “เคหาสน์สีแดง”ตามมาติด ๆใกล้จะฉายให้ได้ดูกัน อดใจรออีกไม่นาน
พูดถึงซีรีส์ “4 หัวใจแห่งขุนเขา” ถ้าไม่กล่าวถึงนางเอกมาแรงอย่างญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์
คงไม่ได้ หนุ่ม ๆ มีเคืองแน่ เพราะนอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว สาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์คนนี้ยังพัฒนาฝีไม้ลายมือได้อย่างพลิกบทบาท จากละครเรื่องแรกที่สร้างชื่อ “กุหลาบไร้หนาม” รับบทนางเอกใสซื่อบริสุทธิ์ที่ต้องโดนสาว “พลอย-เฌอมาลย์” แย่งคนรักไปต่อหน้าต่อตาสู่บทบาทของสาวแก่นแก้วแต่กระชากใจชายหนุ่มทั่วทั้งเมืองซึ่งเธอได้ประกบคู่กับหนุ่มหล่อที่สาว ๆ หลงใหลอย่าง “ณเดชน์” นั่นเอง ในสไตล์ของละครตบจูบ
นางเอกน้องใหม่ของวิก3 อีกคนที่เปิดตัวแรงก็คือ
คิมเบอร์ลี่ แอนด์ เทียมศิริ
นางเอกลูกครึ่งไทย-เยอรมันเรื่อง “ธาราหิมาลัย”ซีรีส์ในละครชุด “4 หัวใจแห่งขุนเขา” อีกเช่นกัน ด้วยหน้าตาที่สะสวยคมคายชวนมองการแสดงที่พัฒนาขึ้นอย่างโดดเด่น บวกกับน้ำเสียงที่ชวนฟัง ก็ทำให้ “หมอน้ำ” คนนี้เข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างไม่ยากเย็นแม้จะเป็นแค่ละครเรื่องแรกก็ตามสำหรับอีกหนึ่งสาวอย่าง
มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
นางเอก “ปฐพีเล่ห์รัก”ก็แรงไม่เบาเรียกว่าตีคู่กันมากับ “ญาญ่า” และ “คิมเบอร์ลี่”เลยทีเดียวเพราะสาวน้อยหน้าใสเลือดใหม่พาวเวอร์ทรีคนนี้น่ารักสดใสมาตั้งแต่ตอนเล่นเรื่อง “หวานใจกับนายจอมหยิ่ง” แล้ว ข้ามวิกมาฝั่งหมอชิตกันบ้าง ใครจะกล้าเถียงว่าดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของช่อง7 สี ไม่ใช่มิน-พีชญา วัฒนามนตรี
สาวขอนแก่นรองมิสทีนไทยแลนด์ปี 2006นางเอกสวยใสหน้าตาสไตล์ “อั้ม-พัชราภา”
ผู้โด่งดังจากละครพื้นบ้านเรื่อง “ปลาบู่ทอง” ปีนี้เรียกว่าเป็นปีทองของเธอก็ว่าได้เพราะหลังจากนั้นเธอก็ได้รับบทนางเอกละครหลังข่าวเต็มตัวติด ๆ กันถึง 3 เรื่อง ทั้ง “เรือนซ่อนรัก”ที่ได้ “กบ-สุวนันท์” เป็นเจ๊ดัน ต่อด้วย “รักในม่านเมฆ” และ “สวรรค์สร้าง” แต่ละเรื่องเรตติ้งกระฉูดทั้งนั้นปีหน้าต้องจับตามองเธอให้ดี
ถ้า “มิน” เป็นดาวรุ่งฝ่ายหญิงของวิกหลายสีฝ่ายชายเห็นทีจะหนีไม่พ้นหนุ่ม
พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์
หนุ่มหน้าใสคลื่นลูกใหม่ที่ว่ากันว่ากำลังมาแรงเบียดรุ่นพี่ตกขอบกระเด็นไปเลย เพราะเจ้าแม่ 7 สี คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เตรียมหมายมั่นปั้นมือให้เป็นพระเอกแถวหน้าของช่องเลยทีเดียวโดยจับให้รับบทพระเอกเต็มตัวไปแล้วในละครเฉลิม พระเกียรติวันพ่อเรื่อง “ลูกโขน” ของค่าย “พอดีคำ” ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่มหล่อเจ้าของส่วนสูงถึง 185 เซนติเมตรคนนี้ก็ได้ชิมลางงานภาพยนตร์เรื่อง “เการักที่เกาหลี”
ของ
พจน์ อานนท์
มาแล้ว
สาวสวยหน้าใสสไตล์เกาหลีอีกคน
ฉัตร-ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร
เด็กปั้น เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร นักปั้นมือทองที่เล่นเพียงแค่ละครเรื่องแรกอย่าง “ใต้ฟ้าตะวันเดียว” ที่ประกบคู่กับพระเอกสุดฮอต “มาริโอ้ เมาเร่อ” ก็ทำให้เธอแจ้งเกิดในวงการบันเทิงจนไปเข้าตาคุณแดงเข้าอีกคน เลยจับเธอเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง7 ยาวนานถึง 7 ปีและยังถูกคาดหมายว่าเธอจะเป็นนางเอกสุดฮอตคนต่อไปของช่อง 7 สีอีกด้วย งานนี้คงต้องดูกันยาว ๆ
ส่วนอีกคนที่ทำท่าจะมาแรงส่งท้ายปีก็นางเอกหน้าใหม่
ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่
จากละคร “เงากามเทพ”เด็กในคาถาของ เอ-ศุภชัยอีกเช่นกัน ตอนนี้กระแสความนิยมดีวันดีคืนคาดว่าอีกไม่นานเธอต้องผงาดเป็นนางเอกแถวหน้าได้สบาย เพราะมีแบ๊กที่ดีอยู่แล้วหากฝีมือเจนจัดกว่านี้หน่อย รับรองมาแรงแน่
มาทางด้านภาพยนตร์ไทยกันบ้าง ปีนี้มีหนังที่โดน ๆ หลายต่อหลายเรื่องแต่เรื่องที่ดังและกระแสแรงที่สุดต้องยกให้ “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” และ “กวน มึน โฮ” ที่นอกจากจะทำรายได้ถล่มทลายแล้ว ยังได้แจ้งเกิดนางเอกมาแรงถึง 2 คนอย่าง
ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
และหนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ
สำหรับ “ใบเฟิร์น”
ใครจะไปคาดคิดว่าหนังฟอร์มเล็ก ๆ อย่าง “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” จะสร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้ด้วยบทบาทอันโดดเด่นที่เธอเป็นตัวเดินเรื่องจากเด็ก ม.1 หน้าปลวก กลับกลายเป็นเด็กสาวแสนน่ารักจนกระชากใจชายหนุ่มทั่วทั้งบ้านทั้งเมือง แถมฝีไม้ลายมือยังไม่เบาเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แค่หนังเรื่องเดียวในปีนี้ก็ทำให้เธอกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทันทีแม้เธอจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนชั้น ม.ต้นโดยเริ่มจากเล่นมิวสิกวิดีโอหลาย ๆ เพลง และยังเล่นหนังไทยมาแล้วถึง 3 เรื่องก็ตาม
คอยติดตามผลงานละครทางช่อง 7 ให้ดีแล้วกัน จะมีอย่างต่อเนื่องแน่นอนส่วน “หนูนา”
นั้น แม้เธอจะเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก ๆ เล่นละครมาก็หลายเรื่องแต่การได้รับบทนางเอกเต็มตัวในหนังเรื่อง “กวนมึน โฮ” ที่ทำรายได้เป็นแชมป์หนังไทยในปีนี้จนทำให้เธอกลายเป็นนางเอกร้อยล้านคนล่าสุด ก็ทำให้ชื่อของ “หนูนา” ดังกระฉ่อนในทันทีและด้วยคาแรกเตอร์ของเธอที่น่ารักสดใส สนุกสนาน ก็ยิ่งโดนใจใครต่อใครเข้าไปอีกบวกกับน้ำเสียงอันไพเราะ จนแกรมมี่จับเซ็นสัญญามีผลงานเพลงตามมาอีก โดยเฉพาะเพลง “อยากมีใครสักคนให้กอด”
ในอัลบั้ม “คอลลิ่งเลิฟ” ก็กำลังฮิตติดชาร์ตทีเดียว ปิดท้ายความแรงด้วย 4 จตุรเทพแห่งเวทีเดอะสตาร์ 6 ที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะนาทีนี้ต้องยกให้พวกเขา ทั้ง “กัน”“ริท” “โตโน่”และ “เซน”
เรียกได้ว่า “เดอะสตาร์”ปีนี้มาแรงทะลุพิกัดจริงๆ ออกซิงเกิ้ลมาแต่ละคนแต่ละเพลงบรรดาแฟนคลับก็กรี๊ดต้อนรับกันอย่างอบอุ่นและถล่มทลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โตโน่” พี่ใหญ่ของน้อง ๆ ดูจะงานชุกเป็นพิเศษเพราะมีทั้งงานเพลง งานละครเวที “หงส์เหนือมังกร”
ที่สร้างความประทับใจกันไปแล้วและกำลังจะมีละครหลังข่าวอีก 2 เรื่องเตรียมฉายในปีหน้านอกจากนี้ยังรับทรัพย์เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าอีกหลายตัว โอ้แม่เจ้า งานนี้ทั้งดังทั้งรวยแบบไม่แบ่งใครกันเลย
ทั้งหมดนี้ก็คือบรรดา “ดาวรุ่ง”
ทั้งหลายไม่ว่าจะชายหรือหญิงที่ “บันเทิงเดลินิวส์”
นำมารวบรวมไว้ให้แฟน ๆ ผู้อ่านส่วนในปีหน้าดาวรุ่งเหล่านี้จะยังคงเปล่งประกายอยู่บนฟากฟ้าหรือไม่คงต้องติดตามกันให้ดี ที่
แน่ ๆ เราก็จะมีดาวดวงใหม่ ๆมาสร้างสีสันให้วงการบันเทิงไทยอยู่เสมอ ๆแต่ดาวดวงนั้นจะเป็นดาวที่เจิดจรัสและเป็นที่รักของประชาชนได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผลงานและการประพฤติตัวว่าเปี่ยมล้นด้วยคุณภาพและมากด้วยคุณธรรมเพียงใดนั่นเอง. เครดิต www.teenee.com
|