- ล่าสุด
- 11-9-2011
- โพสต์
- 14
- ลงทะเบียน
- 6-9-2010
- สำคัญ
- 0

- โพสต์
- 14
- โรฮัน
- 808
|
โพสต์เมื่อ 12-12-2010 00:15:52
ขอบคุณครับที่ตั้งกระทู้แชร์ความประทับใจในหนังอีกครั้ง
ก่อนอื่นขอเล่าย้อนหลังไปนิดนึง สารภาพตรงๆเลยว่าไม่มีความคิดที่จะไปดูหนังเรื่อง "กวน มึน โฮ'' เลยแม้แต่นิดเดียว....เหตุผลก็คือ หน้าหนังไม่ดึงดูดเอาเสียเลย ( จากที่เคยดูทีเซอร์โปรโมทมาก่อนหน้านั้น ซึ่งภายหลังได้บอกกับตัวเองเลยว่า....จะเสียใจมาก หากว่าเราไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ) เอาวะ....ดูก็ดู หลังจากเสร็จงานที่ต่างจังหวัด ก็รีบบึ่งรถเข้ากรุงเทพฯเพื่อมาดูหนังเรื่องนี้ที่พารากอนพร้อมครอบครัว ( คุณแม่ น้องสาว และพี่สาว ) โรงใหญ่เลยและไฮโซมากๆ อุปสรรคขั้นแรกตั้งแต่หาที่จอดรถยากมาก ( วนหาที่จอดรถอยู่ครึ่งชั่วโมง....มารู้ทีหลังว่ามีคอนเสริต์โก๊ะตี๋ หกแพร่งพอดี โอ้ว !!! ) ต่อมาก็คิวจองตัวก็เยอะมากๆยาวมากๆ ผมไม่เคยเห็นคนจองตั๋วเยอะและยาวขนาดนี้มาก่อน !!! ทำไงดี หนังจะเข้าแล้ว หันไปเจอช่องทางซื้อตั๋วด่วนพร้อมป็อบคอร์น ( คือซื้อตั๋วพร้อมป็อบคอร์น 1 set ) จำราคาแน่นอนไม่ได้ฮะ แต่เบ็ดเสร็จ 4 ที่ จัดไปประมาณ 1,300 ( สาบานได้ว่านี่คือครั้งแรกที่ยอมจ่ายแพงขนาดนี้ ) หลังจากได้ตั๋วปุ๊บก็เข้าไปรับชมที่โรง Pavalai ชั้นบนสุด ( หยั่งกะมาดูโอเปร่า ) ตกใจมากครับที่คนเต็มโรงแทบไม่มีที่ว่างเลย ( ในใจก็คิดดีใจที่คนไทยรักหนังไทยขนาดนี้ อีกใจก็คิดว่าหนังจะดีตามที่เคยได้ยินกระแสมาหรือป่าวว้า....ลุ้นๆ ) เปิดมาฉากแรกก็ไม่ผิดหวังเลย เริ่มต้นก็ฮาแล้วครับ ( ท่านผู้ชม ) ฉากที่ว่าก็คือฉากที่ด่างโทรศัพท์คุยกับเผือกแล้วเมย์ก็คุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ฉากนี้เปิดตัวออกมาก็ทำให้คนหัวเราะกันลั่นโรง ซึ่งก็ทำให้เชื่อได้ว่าหนังเรื่องนี้ฮาแน่ๆ ตัวเอกเล่นเนียนกันดีเหลือเกิน หนังก็ได้ดำเนินเรื่องราวไปอย่างชวนติดตามสนุกขึ้นๆ ตลก ฮา ซึ้ง ( ครบรสจริงๆ ) ในระหว่างนั้นความประทับใจในบทบาทการแสดงของตัวน้องนางเอกก็เริ่มสร้างความประทับใจให้กับผมทีละเล็กทีละน้อยจนแทบไม่รู้ตัว ( รู้ตัวช้าเนอะ ) จนหนังดำเนินมาจนถึงตอนใกล้จะจบซึ่งฉากนี้เป็นฉากที่ประทับใจที่สุด ซึ่งจริงๆแล้วมีหลากซีนที่ชอบมากแต่ขอเลือกฉากนางเอกขับรถนั่งฟังวิทยุ ซึ่งถ้าจะว่าไปก็เป็นฉากธรรมดาที่แสนจะไม่ธรรมดา เพราะว่าสิ่งที่หนังดำเนินมาจนจะจบมันได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดการแสดงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผมรับรู้ได้โดยที่เมย์ไม่ต้องพูดอะไรออกมา ด่างที่โทรเข้าไปในรายการวิทยุรายการนึงเพียงเพื่อต้องการทำตามสิ่งที่หัวใจเค้าเรียกร้องและถวิลหามาตลอดเป็นเวลาร่วมปี เหมือนคนไม่มีอะไรจะเสียเสี่ยงลองดูซักทีจะเป็นอะไรไปโดยหารู้ไม่ว่า ปลายทางมีคนๆหนึ่งนั่งฟังความในใจที่ด่างพรั่งพรูความรู้สึกออกมา...ปีที่แล้วอ่ะ ผมไปเที่ยวเกาหลีมา แล้ว...ไปเจอผู้หญิงคนนึงอ่ะ เราเที่ยวด้วยกันไม่กี่วันอ่ะครับ ชื่อเค้าผมก็ยังไม่รู้เลย ...แต่ผมรู้สึกว่า ผมจะรักเค้าอ่ะ (โฮ้ว..โรแมนติกเหมือนในหนังเลยนะค่ะเนี่ย ไปเมืองนอก เจอกันไม่กี่วัน) แต่เค้าบอกผมว่า เราอาจจะเเค่คิดไปเองอ่ะ (แล้วคุณด่างคิดแบบนั้นรึเปล่าล่ะค่ะ?) ไม่รู้ดิครับ ถ้าผมคิดไปเองอ่ะ ผมก็คงเป็นคนคิดนานอ่ะ ผ่านมาเป็นปีแหละ ทำไมผมยังคิดถึงเค้าอยู่เลยอ่ะ ผมยังอยากเจอเค้าทุกวัน เฮ้อ! พี่ว่า ...ผมควรเลิกบ้าได้ยังอ่ะ (อ้าวก็แล้วทำมั๊ยคุณด่างไม่ไปหา แล้วไปบอกเขาหล่ะค่ะ?) คงยากอ่ะครับ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกะเค้าเลย ผมรู้แค่ว่า เค้าเคยเป็นตัวประกอบหนัง แล้วหนังไทยอ่ะมีเป็นหมื่นๆเรื่อง พี่ว่าผมจะเจอมั๊ยหล่ะ? ที่เค้าเคยบอกผมไว้มันก็ถูกเเล้วหล่ะครับ มันไม่มีหรอก...ความรักน้ำเน่าแบบในหนังอ่ะ พี่ว่าป่ะ?(เออออ ...ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างเงี้ย คุณด่างฝากชื่อจริงไว้หน่อยดีมั๊ยค่ะ? เผื่อว่าพี่อ้อย พี่ฉอดจะช่วยอะไรได้) เอออ...เอางั้นเหรอครับ ผมชื่อ......แล้วน้องหนูนาก้ได้โชว์ความสามารถทางการแสดง เป็นการแสดงที่น่าเชื่อมากๆ รอยยิ้มบนคราบน้ำตานั้น มันทำให้ผมตกหลุมรักเธอคนนี้เข้าให้แล้วครับ เป็นรอยยิ้มที่มีความหมายจริงๆ นำพาให้ผมต้องเข้าไปดูหนังเรื่องนี้รอบแล้วรอบเล่าโดยไม่รู้เบื่อจริงๆ.... |
|