- ล่าสุด
- 5-3-2017
- โพสต์
- 2520
- ลงทะเบียน
- 26-9-2010
- สำคัญ
- 0
   
- โพสต์
- 2520
- โรฮัน
- 41
|
โพสต์เมื่อ 26-7-2011 21:24:09
รวมข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ การชัก การแสดงธงชาติ
ตามนัย พระราชบัญญัติธง พ.ศ.2522 ประมวลกฎหมายอาญา ระเบียบส้านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก
หรือการแสดงธงชาติและธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. 2529 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2546 มติ
คณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พฤษภาคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 ได้ก้าหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้
การชัก หรือการแสดงธงชาติที่ส้าคัญ ดังนี้
1.ขนาดและสีธงชาติ
มีขนาดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน ด้านกว้างแบ่งเป็น 5 แถบ ตลอดความยาวของผืนธง ตรง
กลางเป็นแถบสีน้้าเงินแก่ กว้าง 2 ส่วน ต่อจากแถบสีน้้าเงินแก่ออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีขาวกว้างข้างละ 1 ส่วน ต่อจาก
แถบสีขาวออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีแดงกว้างข้างละ 1 ส่วน
2. การแสดงธงชาติ
หมายความว่า การที่บุคคลหรือคณะบุคคลได้ท้าหรือสร้างให้ปรากฏเป็นรูปร่างไม่ว่าจะเป็นวัตถุ รูปภาพ
หรือสสาร ที่มีลักษณะเป็นสีที่มีความหมายถึงธงชาติหรือแถบสีธงชาติ
3. ลักษณะธงชาติที่น ามาใช้
ธงชาติที่จะน้ามาใช้ ชัก หรือแสดง ต้องมีสภาพดีเรียบร้อย ไม่ขาดวิ่น และสีไม่ซีดจนเกินควร
4. ขนาดเสาธงและผืนธงชาติ
เสาธงชาติจะมีขนาดสูง ต่้า ใหญ่หรือเล็กเพียงไร ควรจะอยู่ ณ ที่ใด และจะใช้ผืนธงขนาดเท่าใดนั้น ให้อยู่ใน
ดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หรือผู้ปกครองสถานที่หรือเอกชนผู้ครอบครองอาคารสถานที่จะพึงพิจารณา
ให้เหมาะสมเป็นสง่างามแก่อาคารสถานที่นั้นๆ
5. การประดับธงชาติและก าหนดเวลาชักธงชาติขึ้นและลง
5.1 เพื่อสร้างความรู้สึกนิยมและภาคภูมิใจในความเป็นชาติอีกทั้งเป็นการเผยแพร่ธงชาติให้เป็นที่ปรากฏชินตา
แก่ผู้พบเห็น คณะรัฐมนตรีได้ก้าหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐประดับธงชาติไว้ในสถานที่อัน
ควร ในบริเวณที่ท้าการทุกวันและตลอดเวลา ส้าหรับภาคเอกชน และบ้านเรือนประชาชนโดยทั่วไปก็ให้อนุโลมด้าเนินการ
ไปในแนวทางเดียวกัน
5.2 นอกเหนือจากข้อ 5.1 ถ้าต้องมีการชักธงชาติขึ้นและลง ณ สถานที่ หรือบริเวณใด โดยปกติให้เป็นไปตาม
ก้าหนดเวลาดังต่อไปนี้
5.2.1 ชักขึ้นเวลา 08.00 นาฬิกา
5.2.2 ชักลงเวลา 18.00 นาฬิกา
5.3 สถานที่และยานพาหนะของฝ่ายทหาร การชักธงชาติขึ้นและลงให้ปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อบังคับของ
ทหาร
5.4 เรือเดินทะเล การชักธงชาติขึ้นและลง ให้ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเรือ
5.5 สถานที่ราชการพลเรือน ถ้าในบริเวณเดียวกันมีสถานที่ราชการหลายแห่งจะสมควรชักธงชาติ ณ ที่ใด ให้
อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานผู้ปกครองสถานที่นั้น ๆ
5.6 สถานที่ราชการฝ่ายพลเรือนที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน การชักธงชาติโดยการจัดตั้งเสาธงชาติต่างหากจาก
ตัวอาคาร ให้ได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการพระราชวัง 5.7 สถาบันการศึกษาในสังกัดหรือในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ ให้ชักธงชาติตามระเบียบที่
กระทรวงศึกษาธิการก้าหนด
5.8 เรือเดินในล้าน้้า ถ้าจะชักธงชาติให้ชักไว้ที่ท้ายเรือ
5.9 ที่สาธารณสถานและสถานที่ของเอกชน ถ้าจะชักธงชาติให้ปฏิบัติตามระเบียบส้านักนายกรัฐมนตรีโดย
อนุโลม
6. วิธีการชักธงชาติ
6.1 ผู้มีหน้าที่ชักธงชาติต้องแต่งกายเรียบร้อย
6.2 เมื่อใกล้ก้าหนดเวลาชักธงขึ้น ให้เตรียมธงชาติผูกติดกับสายเชือกทางด้านขวาของผู้ชักธงให้เรียบร้อย
6.3 เมื่อถึงก้าหนดเวลา ให้คลี่ธงชาติออกเต็มผืน แล้วดึงเชือกให้ธงชาติขึ้นช้า ๆ ด้วยความสม่้าเสมอ จนถึงสุด
ยอดเสาธง แล้วจึงผูกเชือกไว้ให้ตึง ไม่ให้ธงลดต่้าลงมาจากเดิม
6.4 เมื่อชักธงลงให้ดึงเชือกให้ธงชาติลงช้า ๆ ด้วยความสม่้าเสมอ และสายเชือกตึงจนถึงระดับเดิมก่อนชักขึ้น
6.5 ในกรณีที่มีการบรรเลงเพลงเคารพหรือมีสัญญาณให้การชักธงขึ้นและลง จะต้องชักธงชาติขึ้นและลงให้ถึง
จุดที่สุด พร้อมกับจบเพลงหรือสัญญาณนั้นๆ
7. วันพิธีส าคัญที่ต้องชักธงและประดับธงชาติ
7.1 วันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 1 วัน
7.2 วันมาฆบูชา 1 วัน
7.3 วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรม
ราชวงศ์ วันที่ 6 เมษายน 1 วัน
7.4 วันสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน 1 วัน
7.5 วันฉัตรมงคล วันที่ 5 พฤษภาคม 1 วัน
7.6 วันพืชมงคล 1 วัน
7.7 วันวิสาขบูชา 1 วัน
7.8 วันอาสาฬหบูชา 1 วัน
7.9 วันเข้าพรรษา 1 วัน
7.10 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 1 วัน
7.11 วันสหประชาชาติวันที่ 24 ตุลาคม 1 วัน
7.12 วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5, 6 และ 7 ธันวาคม 3 วัน
7.13 วันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 1 วัน
นอกจากนี้สุดแต่ทางราชการจะประกาศให้ทราบเป็นครั้งคราว ส่วนงานพิธีอื่นๆ ตามประเพณีนิยม หาก
จะชักธงและประดับธงชาติก็ท้าได้แต่ต้องท้าด้วยความเคารพ
8. การลดธงชาติครึ่งเสา
การลดธงชาติครึ่งเสากรณีใด เป็นเวลาเท่าใด ทางราชการจะประกาศให้ทราบเป็นคราว ๆ ไป ในทางปฏิบัติที่
ผ่านมา การลดธงชาติครึ่งเสาจะกระท้าในกรณีที่ประมุขหรือบุคคลส้าคัญของประเทศต่างๆ เสียชีวิต โดยปกติทางราชการ
จะประกาศให้ลดธงชาติครึ่งเสาทั่วราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 วัน การลดธงชาติครึ่งเสาให้ปฏิบัติการเหมือนการชักธงขึ้นเช่นปกติแต่เมื่อธงถึงยอดเสาแล้วจึงลดลงให้อยู่ใน
ระดับความสูงประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของความสูงของเสาธงนั้น และเมื่อจะชักธงลงให้ชักธงขึ้นจนถึงยอดเสาก่อน แล้วจึง
ชักธงลงเช่นเดียวกับเรื่องวิธีการชักธงชาติ
9. การท าความเคารพธงชาติ
9.1 เมื่อมีการชักธงชาติขึ้นและลง ให้แสดงความเคารพโดยการยืนตรง หันไปทางเสาธง อาคาร หรือสถานที่ที่มี
การชักธงชาติขึ้นและลง จนกว่าจะเสร็จการ
9.2 ในกรณีที่ได้ยินเพลงชาติหรือสัญญาณการชักธงชาติ จะเห็นหรือไม่เห็นการชักธงชาติก็ตาม ให้แสดงความ
เคารพโดยหยุดนิ่งในอาการส้ารวม จนกว่าการชักธงชาติหรือเสียงเพลงชาติหรือสัญญาณการชักธงชาติจะสิ้นสุดลง
10. การดูแลรักษาธงชาติ
10.1 ให้หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานผู้ปกครองอาคารสถานที่ราชการหรือสถานที่ท้าการของ
หน่วยงานของรัฐและเอกชนผู้ครอบครองอาคารสถานที่ที่มีการใช้การชักหรือการแสดงธงชาติกวดขันดูแลให้มีการปฏิบัติ
ตามกฎหมายและระเบียบโดยเคร่งครัด
10.2 ให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการใช้ การชักหรือการแสดงธงชาติเก็บรักษาธงชาติไว้
ด้วยความเคารพในสถานที่และที่เก็บอันสมควร
10.3 การเชิญธงชาติจากที่เก็บรักษาเพื่อน้าไปใช้ ชัก หรือแสดง ในกรณีที่ธงชาติเป็นผืนผ้าให้เชิญไปในสภาพ
ที่พับเรียบร้อย และด้วยอาการเคารพเมื่อถึงทีที่จะใช้หรือแสดงจึงคลี่ธงออกเพื่อใช้หรือแสดงต่อไป
10.4 การเชิญธงชาติจากที่ที่ใช้ ชัก หรือแสดง ไปเก็บไว้ ณ ที่เก็บรักษา ให้ด้าเนินการในลักษณะเดียวกับที่
ก้าหนดไว้ในข้อ 10.3
11. การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงอื่น
11.1 การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงอื่น ยกเว้นธงพระอิสริยยศจะต้องไม่ให้ธงชาติอยู่ในระดับต่้ากว่าธง
อื่นๆ และโดยปกติให้จัดธงชาติอยู่ที่เสาธงแรกด้านขวา (เมื่อมองดูออกมาจากภายใน หรือจุดของสถานที่ที่ใช้ชัก แสดง
หรือประดับธงเป็นหลัก)
11.2 การประดับธงชาติคู่กับธงอื่นในงานพิธีซึ่งมีแท่นหรือมีที่ส้าหรับประธาน ให้จัดธงชาติอยู่ด้านขวาของ
แท่นพิธีและธงอื่นอยู่ด้านซ้าย
11.3 การประดับธงชาติคู่กับธงอื่น เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจ้านวนคี่ให้ธงชาติอยู่กลาง
11.4 การประดับธงชาติคู่กับธงอื่น เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจ้านวนคู่ให้ธงชาติอยู่กลางด้านขวา
12. การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับพระพุทธรูปหรือพระบรมรูป
การประดับธงชาติร่วมกับพระพุทธรูปและพระบรมรูปในพิธีการต่างๆ ให้จัดธงชาติอยู่ด้านขวาของ
พระพุทธรูป พระบรมรูปอยู่ด้านซ้าย
13. การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงของต่างประเทศ
13.1 การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงของต่างประเทศ จะต้องเป็นไปในลักษณะที่เท่าเทียมกันเช่น ขนาด
และสีของธง และความสูงต่้าของธง เป็นต้น
13.2 ถ้าประดับหรือชักธงของต่างประเทศประเทศเดียว ต้องให้ธงชาติอยู่ด้านขวาของธงต่างประเทศ
13.3 ถ้าประดับธงของต่างประเทศเกินกว่าหนึ่งประเทศ เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจ้านวนคี่ให้ธงชาติอยู่ตรง
กลาง 13.4 ถ้าประดับธงของต่างประเทศเกินกว่าหนึ่งประเทศ เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจ้านวนคู่ให้ธงชาติอยู่กลาง
ด้านขวา
13.5 การประดับธงชาติในสถานที่ หรือมีข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือประเทศภาคีก้าหนดไว้เป็นอย่างอื่น
เช่น ให้ใช้เรียงตามล้าดับอักษร หรือเรียงตามล้าดับการเป็นสมาชิก ก็ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น
13.6 การประดับธงชาติในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ โดยปกติให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของ
สมาคมกีฬาระหว่างประเทศ หรือตามหลักสากลที่ยอมรับกันในนานาอารยประเทศ
13.7 การประดับธงชาติคู่กับธงของต่างประเทศส้าหรับรถยนต์ ให้ปักธงชาติไว้ทางด้านขวา และธงของ
ต่างประเทศไว้ทางด้านซ้าย
13.8 ยานพาหนะอื่นให้ใช้ท้านองเดียวกับข้อ 13.7 เว้นแต่การประดับบนเรือให้เป็นไปตามธรรมเนียมประเพณี
ของชาวเรือ
14. การใช้ธงชาติกับผู้เสียชีวิต
14.1 การใช้ธงชาติประกอบเกียรติยศศพหรืออัฐิให้ใช้กับบุคคลดังต่อไปนี้
14.1.1 ประธานองคมนตรี
14.1.2 ประธานรัฐสภา
14.1.3 นายกรัฐมนตรี
14.1.4 ประธานศาลฎีกา
14.1.5 ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์
14.1.6 ผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่สู้รบหรือต่อสู้หรือช่วยเหลือการสู้รบ หรือต่อสู้ หรือ
เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือช่วยเหลือราชการในการป้องกันอธิปไตย หรือรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ
หรือปราบปรามการกระท้าผิดต่อความมั่นคงของรัฐ หรือปราบปรามการกระท้าความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี
รัชทายาท และผู้ส้าเร็จราชการแทนพระองค์
14.1.7 ผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากได้แสดงความกล้าหาญ ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ให้เป็นประโยชน์อย่างส้าคัญแก่
ทางราชการ โดยไม่เกรงภัยอันจะเกิดแก่ชีวิตของตน
14.1.8 บุคคลนอกจากข้อ 14.1.1 – 14.1.7 และเป็นผู้ที่ทางราชการเห็นสมควร
14.2 บุคคลตามข้อ 14.1.1 – 14.1.4 ต้องเป็นผู้เสียชีวิตในขณะด้ารงต้าแหน่ง
15. การใช้ธงชาติคลุมศพ
การใช้ธงชาติคลุมศพ ให้ใช้ในกรณี ดังนี้
15.1 ในพิธีรับพระราชทานน้้าอาบศพหรือพิธีรดน้้าศพ
15.2 ในพิธีปลงศพตามประเพณีของทหารเรือ
15.3 ในระหว่างการเคลื่อนย้ายศพเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
16. การใช้ธงชาติคลุมหีบศพ หรืออัฐิ
การใช้ธงชาติคลุมหีบศพหรืออัฐิ ให้ใช้ในกรณี ดังนี้
16.1 เมื่อเชิญหรือเคลื่อนย้ายศพหรืออัฐิ เพื่อประกอบพิธีรับพระราชทานน้้าอาบศพ รดน้้าศพ หรือบ้าเพ็ญกุศล
ตามพิธีทางศาสนา
16.2 ในระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนา 16.3 ในระหว่างการตั้งศพเพื่อรับพระราชทานเพลิงศพประกอบการฌาปนกิจ หรือเคลื่อนย้ายศพไปประกอบ
พิธีฝัง
17. วิธีการใช้ธงชาติคลุมศพหรือหีบศพ
17.1 ปกติให้ใช้คลุมตามความยาวของธง โดยให้ด้านต้นของผืนธงอยู่ทางส่วนศีรษะของศพและจะต้องปฏิบัติ
ไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียเกียรติแก่ธงชาติ
17.2 ห้ามมิให้วางสิ่งหนึ่งสิ่งใดลงบนธงชาติที่คลุมศพหรือหีบศพ
17.3 เมื่อจะรับพระราชทานน้้าอาบศพ บรรจุหรือฝังศพ ประชุมเพลิงศพตอนเผาจริงให้เชิญธงชาติที่คลุมศพ
หรือหีบศพพับเก็บให้เรียบร้อย โดยมิให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของธงสัมผัสพื้น
17.4 ผู้ได้รับพระราชทานโกศหรือหีบหลวงประกอบเกียรติยศศพอยู่แล้ว ถ้ามีสิทธิใช้ธงชาติคลุมศพด้วย ให้
กระท้าได้โดยวิธีเชิญธงชาติในสภาพที่พับเรียบร้อยใส่พานตั้งไว้เป็นเกียรติยศ ที่หน้าที่ตั้งศพเช่นเดียวกับการตั้งเครื่องยศ
และเครื่องราชอิสริยาภรณ์แต่ต้องไม่ต่้ากว่าเครื่องยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
17.5 ห้ามใช้ธงชาติหรือแถบสีธงชาติคลุมทับหรือตกแต่งโกศหรือหีบศพที่พระราชทานประกอบเกียรติยศศพ
18. การแสดงธงชาติที่สินค้า
การแสดงธงชาติไว้ที่สิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อ สิ่งผูกมัด ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดๆ ที่มิได้มีลักษณะเป็นการ
เหยียดหยามต่อธงชาติ ประเทศไทยหรือชาติไทย ให้ท้าได้ในกรณีดังต่อไปนี้
18.1 เป็นการแสดงธงชาติที่กระท้าโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
18.2 เป็นการแสดงธงชาติที่กระท้าโดยเอกชน เพื่อประโยชน์ทางการพาณิชย์โดยได้รับความเห็นชอบจากส่วน
ราชการที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์หรือกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วแต่กรณีโดยหลักเกณฑ์และวิธีการขอ
ความเห็นชอบให้เป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์หรือกระทรวงอุตสาหกรรมประกาศก้าหนด
18.3 เป็นการแสดงธงชาติที่กระท้าโดยเอกชนในกรณีอื่นๆ ตามที่ส้านักงานปลัดส้านักนายกรัฐมนตรีโดย
ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการธงจะประกาศก้าหนด
19. การกระท าอันเป็นการเหยียดหยามหรือไม่สมควรต่อธงชาติ
19.1 การกระท้าอันเป็นการเหยียดหยามต่อธงชาติ ได้แก่ การกระท้าต่อธงชาติรูปจ้าลองของธงชาติหรือแถบ
สีธงชาติ ด้วยเจตนาเหยียดหยามประเทศชาติ เช่น ฉีกท้าลาย ถ่มน้้าลายรด ใช้เท้าเหยียบ วางเป็นผ้าเช็ดเท้า ซึ่งเป็นการแสดง
ความดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามชาติไทย
19.2 การกระท้าที่ไม่สมควรต่อธงชาติ รูปจ้าลองของธงชาติ หรือแถบสีธงชาติ เช่น
19.2.1 การประดิษฐ์รูป ตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นในผืนธงรูปจ้าลองของธงหรือแถบสีของ
ธง
19.2.2 การใช้ชัก หรือแสดงธง รูปจ้าลองของธง หรือแถบสีของธงอันมีลักษณะตามข้อ 19.2.1
19.2.3 การใช้ชัก หรือแสดงธง รูปจ้าลองของธง หรือแถบสีของธงไว้ ณ สถานที่หรือวิธีอันไม่สมควร
19.2.4 การประดิษฐ์ธง รูปจ้าลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใดๆ โดยไม่สมควร
19.2.5 แสดงหรือใช้สิ่งใด ๆ ที่มีรูปธง รูปจ้าลองของธง หรือแถบสีธงอันมีลักษณะตามข้อ 19.2.4
20. โทษ
การกระท้าการต่อธงชาติโดยไม่ให้ความเคารพ มีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย ดังนี้
20.1 กระท้าการใดๆ ต่อธง หรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติต้อง
ระวางโทษจ้าคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจ้าทั้งปรับ (มาตรา 118 แห่งประมวลกฎหมายอาญา)
เครดิต : http://www.laemngop.com/fileupload/file/flag.pdf
|
|