- ล่าสุด
- 31-3-2016
- โพสต์
- 3006
- ลงทะเบียน
- 18-9-2010
- สำคัญ
- 0
   
- โพสต์
- 3006
- โรฮัน
- 906
|
โพสต์เมื่อ 28-2-2011 04:05:35
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mehfreeman เมื่อ 28-2-2011 04:06
แมวเปอร์เซีย กับปัญหาเชื้อรา
มันเหมือนกับเป็นความขัดแย้งกลายๆเมื่อของสวยๆงามๆอย่าง แมวเปอร์เซีย จะต้องมีโรคประจำตัว
ของมันคือเชื้อรา เสมือนผู้หญิงที่แต่งตัวสวยๆแต่พอถอดเสื้อผ้ามีกลากเกลื้อนเต็มตัวไปหมดความชื้น
ที่เหมาะสม ร่างกายที่อ่อนแอ ขนที่ไม่ค่อยได้สางหรือหวี และสถานที่เลี้ยงไม่สะอาดเพียงพอ
ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้แมวเปอร์เซียมีโอกาสเป็นเชื้อราได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ฟาร์มแมวเปอร์เซีย
ใหญ่หรือเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกแมวเปอร์เซียอายุตั้งแต่ 15 วัน-3เดือน ที่ภูมิคุ้มกัน
ไม่ค่อยดีจะมีโอกาสเป็นได้ทั่วตัว ถ้าแม่เหมียวเปอร์เซียขยันเลียขนให้ลูกบ่อยๆโอกาสที่จะเป็นกลากเกลื้อนเชื้อราก็มากขึ้นตามเงา เชื้อราที่น่าเป็นห่วงจะเป็นประเภทเป็นผื่นแดงๆแล้วจะคันลูกแมวจะเกาบ่อยมี โอกาสติดต่อสู่คนได้สูง แต่ประเภทที่เป็นกลากสีขาวๆขุ่นๆแข็งๆ(บางคนเรียกว่ากลากน้ำนม)อาจจะเป็นยีสต์หรือเชื้อราชนิดหนึ่งอาการจะคันน้อยหรือไม่คันแต่จะทำให้ลูกแมวมีขนหลุดล่วงไม่สวยไม่ค่อยติดต่อสู่คนและถ้าลูกแมวตัวไหนแข็งแรงมากๆก็จะไม่เป็นหรือถ้าเป็นก็จะน้อยมากเช่นบริเวณใบหูหรือบนศีรษะเป็นต้น
การรักษาทำได้หลายวิธีเช่น
1. การให้ยาทาน วิธีนี้ต้องไปปรึกษาสัตวแพทย์ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นลูกแมวยังไม่ครบ 3 เดือนหมอมักไม่จ่ายยามาให้และตัวยามักจะไปทำลายตับได้แต่ถ้าเป็นแมวโตก็สามารถทานได้
2. การทายาที่เป็นครีม ส่วนใหญ่สัตวแพทย์จะใช้วิธีนี้กันมากแต่จะรักษานานมากบางทีก็ไม่ค่อยหายเพราะถ้าเราไม่หาอะไรมาครอบคอแมวเปอร์เซียมันก็จะเลียหมดและอาจจะเป็นอันตรายต่อแมวได้เช่นกัน
3. การโกนขน ใช้ในกรณีที่เป็นมากวิธีนี้ความจริงก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งแต่บางคนอาจจะรับไม่ได้เพราะแมวเปอร์เซียจะอยู่ในสภาพน่าเกลียดมาก การโกนขนก็ใช้ร่วมกับการอาบน้ำให้บ่อยขึ้นแต่บางครั้งการอาบน้ำบ่อยก็ทำให้เกิดปัญหาอย่างอื่นตามมาเช่นการเป็นหวัดหรือปอดบวมได้และถ้าหากเช็ดตัวเขาไม่แห้งเชื้อราก็ยิ่งลามมากขึ้น การโกนขนแล้วทายาก็จะทำให้หายเร็วขึ้น
4. วิธีที่แนะนำในหัวข้อนี้ใช้ได้ผลกับแมวที่ฟาร์ม(แต่ใช้สำหรับแมวเปอร์เซียที่ไม่ได้ออกสังคม)และไม่รับประกันความผิดพลาดถ้าหากนำไปใช้ คือใช้น้ำยาไฮโดรเจนผสมกับน้ำพอประมาณแต่ถ้าให้สัมฤทธิ์ผลเร็วๆก็ไม่ต้องผสมให้ทาที่เชื้อรามันจะเป็นฟองทึ้งไว้ซักพักแล้วใช้สำลีเช็ดออก ให้สังเกตว่าผลของการใช้น้ำยามันจะไปกัดผิวหนังและขนออกไปก็ถือว่าใช้ได้เช็ดด้วยน้ำยาซ้ำอีกในวันถัดไปถ้าเห็นว่ายังมีเชื้อราอยู่แล้วก็รอให้ขนขึ้น
5. อีกวิธีหนึ่งที่ทำแล้วเห็นผลและป้องกัน ลูกแมวเปอร์เซีย เป็นหวัด และทำบ่อยๆได้ โดยการนำน้ำยาไนโซรัลที่ใช้กับคน น้ำยานี้มีทั้งแบบของเมืองนอกและของเมืองไทย ราคาที่มาจากนอกก็แพงกว่าเท่าตัว ดังนั้นแล้วแต่จะเลือก คุณภาพก็เท่ากัน หรือบางคนคิดว่าถ้า แมวเปอร์เซียมาจากนอกก็ต้องใช้ของนอก ก็ได้นะแต่บอกไว้เลยว่าตัวยามันเหมือนกัน 2% ทั้งนั้น ขั้นตอนต่อไปให้นำน้ำอุ่น (อุ่นๆหน่อยนะ) ไม่ต้องถามนะว่าทำน้ำอุ่นได้อย่างไร ประมาณซักแก้วก็พอแล้วหยอดน้ำยาไปซัก 2-3 หยดคนให้เป็นฟอง แล้วน้ำสำลีก้อนโตๆหน่อยจุ่มลงไปแล้วนำสำลีไปทาที่ตัวแมวที่เป็นเชื้อรา ตรงตำแหน่งนั้น ทาไปก็พยายามถูตรงที่เป็นเชื้อด้วยสะเก็ดมันจะได้หลุด ถ้าเป็น ลูกแมวปอร์เซีย ก็อย่าถูแรงมากจนเป็นรอยถลอกนะ เปลี่ยนสำลีแล้วทำซ้ำสัก 2-3 รอบก็พอ ทิ้งไว้ซัก 2-3 นาที แล้วน้ำน้ำอุ่นที่ไม่ผสมอะไร จุ่มด้วยสำลีแล้วก็ทาตรงที่เป็นเชื้อราเพื่อล้างคราบน้ำยา ขณะนี้แมวเปียกนิดก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้โดนลมโดยเด็ดขาด ดังนั้นควรทำในบ้านจะดีที่สุด เสร็จแล้วก็เช็ดด้วยหนังชามัวร์มันจะแห้งเร็ว แล้วก็ไปเป่าด้วยไดร์เป่าผมเป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยทำซ้ำได้เรื่อยๆ วิธีนี้เหมาะมากกับลูกแมว
|
|