กวน มึน โฮ ? อีกหนึ่งหนังขวัญใจมหาชนที่ทุกคนต้องชอบ! จากค่าย จีทีเอช
โดย ทอม แฮนเซ่น
(หมายเหตุ ? สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู บทความชิ้นนี้ เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วนของหนัง)
กับรายได้ที่ทะลุหลัก 40 ล้าน เพียงสัปดาห์แรกในการฉายของ กวน มึน โฮ น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งว่า จีทีเอช เก่งกาจขนาดไหนในการทำหนังสักเรื่องให้ออกมาถูกใจมหาชน และถ้าไม่เกิดอาเพศ หรือ มีพายุพัดถล่มตามโรงหนังขึ้นมาล่ะก็ คาดว่า กวน มึน โฮ น่าจะเป็นหนัง จีทีเอช อีกเรื่องที่ขึ้นทำเนียบหนัง 100 ล้าน หลังจากที่เคยทำได้มาแล้วกับ แฟนฉัน, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ รวมไปหนังผีอย่างชัตเตอร์ฯ และ 5 แพร่ง
หากเราหยิบเฉพาะหนังร้อยล้านที่มีโทน ฟีลกู๊ด คล้ายๆ กันอย่าง แฟนฉัน และ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ มาเปรียบเทียบกับผลงานล่าสุดของ จีทีเอช เรื่องนี้ จะพบว่า ทั้ง แฟนฉัน, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ และ กวน มึน โฮ จะมีจุดร่วมจุดหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ หนังสามเรื่องที่ว่าถูกสร้างขึ้นมาจากบางสิ่งบางอย่างที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ เข้าถึงได้ และมีอารมณ์ร่วมกับมัน แฟนฉัน พาคนดูย้อนกลับไปถวิลหาความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ทำเอาผู้หญิงวัย 30 ทั่วประเทศวาดฝันว่าฉันก็มีสิทธิ์กิ๊กรักกับหนุ่มหล่อระดับพี่เคน ธีรเดช มาจนถึง กวน มึน โฮ ก็มาพร้อมกับเรื่องราวชวนฝันที่ว่าด้วย หนุ่มสาวแปลกหน้าคู่หนึ่งที่บังเอิญมาเจอกัน ไปเที่ยวด้วยกัน และตกหลุมรักกัน ทั้งๆ ที่รู้จักกันเพียงไม่กี่วัน (จะว่าไปพล็อตเรื่องทำนองนี้ทำเรานึกไปถึงหนังเรื่อง Before Sunrise ของริชาร์ด ลิงเลเตอร์อยู่เหมือนกัน)
![]()
|
และถ้าเราหยิบเฉพาะหนังที่นิยามตัวเองว่า โฮแมนติก คอมมิดี้ เรื่องนี้มาดูกันก็จะพบว่า องค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เชิญชวนให้คนดูอยากเข้าไปลิ้มลองทั้งสิ้น ไล่ไปตั้งแต่ การที่หนังเรื่องนี้เป็นฝีมือของผู้กำกับ โต้ง บรรจง ซึ่งสร้างชื่อมาจากหนังผีคุณภาพอย่าง ชัตเตอร์ฯ, แฝด, 4 แพร่ง (ตอน คนกลาง), 5 แพร่ง (ตอน คนกอง) ที่คราวนี้เขาผันตัวเองมาทำหนังรักเป็นครั้งแรก, พระเอกเต๋อ ฉันทวิชช์ (ที่เคยมีผลงานผ่านตาเรามาแล้วจาก โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต และ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น) กับ นางเอก หนูนา-หนึ่งธิดา ที่ถึงแม้ เต๋อ จะไม่ได้จัดอยู่ในพระเอกระดับแม่เหล็ก ในขณะที่ หนูนา ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นนางเอกใหม่ถอดด้าม แต่อย่างน้อยๆ ตัวอย่างหนังเรื่องนี้ที่ตัดออกมาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถทำให้คนที่ได้ดูรู้สึกถึง ความเข้าขา และเคมีที่ลงตัวของทั้งคู่ ซึ่งผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ใครก็ตามที่ได้ดูตัวอย่างหนังที่ว่า จะต้องรู้สึกอยากดูหนังฉบับเต็มขึ้นมาทันที
นี่ยังไม่นับ เรื่องราวความรักจี๊ดๆ ของหนุ่มสาวแปลกหน้าคู่หนึ่ง คนหนึ่งถูกแฟนทิ้ง อีกคนหนึ่งกำลังเบื่อแฟนเต็มทน ที่มาเจอกันโดยบังเอิญ และรักกันในที่สุด แถมเรื่องราวอันนี้ยังเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในดินแดนอันแสนโรแมนติกอย่างเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่หลายคนรู้จักกันดีผ่านซีรีส์ยอดฮิตที่มาฉายบ้านเรามากมาย หรือไม่ก็สนิทสนมกับคนประเทศนี้ผ่านศิลปินเคป็อป เกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ทั้งหลาย (อ่อ...เกือบลืมไปว่าชื่อหนัง กวน มึน โฮ ก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจจากครั้งแรกที่เห็นว่า เอ๊ะ! ตกลงนี่มันหนังอะไรกันแน่ หนังเกาหลี หรือว่า หนังไทย? เชื่อว่าหลายคนคงคิดแบบนั้นเหมือนกัน)
ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อเอาส่วนประกอบต่างๆ ที่ว่ามาผนวกเข้าด้วยกัน ทำให้ กวน มึน โฮ ถูกพูดถึงอย่างมากตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ฉาย และยิ่งถูกกล่าวขวัญถึงมากขึ้นๆ เมื่อออกฉายแล้ว ถึงความสนุกสนาน ซาบซึ้ง ฮาแตก และ กวนทีน ของหนังเรื่องนี้ ซึ่งทุกอารมณ์ที่ว่าในกวน มึน โฮ อยู่ในระดับที่เอาคนดูอยู่ เวลาสนุกก็สนุกกันเต็มที่ เวลาจะซึ้งก็ซึ้งได้ใจ มุขตลกที่ใส่เข้ามาก็ฮาแทบทุกเม็ด (โดยเฉพาะมุข ช้างกูอยู่ไหน? นี่ฮาสนั่นโรง) และสิ่งที่ดูเหมือนจะถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ ความกวนโอ๊ย ของเต๋อ ฉันทวิชช์ ที่งานนี้นอกจากจะแสดงเป็นพระเอกแล้ว เขายังมีส่วนร่วมในการเขียนบทหนังอีกด้วย
ความดีความชอบส่วนหนึ่งคงต้องยกให้ผู้กำกับ โต้ง บรรจง ที่สามารถนำจุดเด่น จุดแข็ง ต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น บทสนทนาของพระเอก นางเอกซึ่งใช้เป็นตัวเดินเรื่อง, มุขตลกที่ถูกแทรกไว้เป็นระยะๆ, อารมณ์ซึ้งๆ ที่ถูกใส่เข้ามาช่วงครึ่งหลังของหนัง ไปจนถึง สถานที่ท่องเที่ยว วิวทิวทัศน์สวยๆ และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่เป็นเกาหลี จัดวางลงไปในหนังได้อย่างลื่นไหล ถูกที่ถูกเวลา จนสามารถมอบความรู้สึก ฟีลกู๊ด แบบเต็มอิ่มให้กับคนดูได้สมกับการเป็นหนังที่พะยี่ห้อ จีทีเอช
สำหรับผมแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่ดีที่สุดของ กวน มึน โฮ คือ การแสดงอันยอดเยี่ยมของ หนูนา-หนึ่งธิดา ที่ถึงแม้จะเป็นนางเอกมือใหม่ แต่สิ่งที่เราเห็นก็คือ ไม่ว่าจะ กวน มึน หรือ โฮ อารมณ์ไหนเธอก็ทำได้เยี่ยมหมด แถมเวลาที่ต้องทำท่าทางเปิ่นๆ โก๊ะๆ ก็ใส่เต็มที่แบบไม่ต้องแอ๊บมาดนางเอกผู้แสนดี พูดง่ายๆ ก็คือ ทุกครั้งที่เห็นในหนัง น้องหนูนา ดูน่ารัก สดใส เป็นธรรมชาติ มากๆ ฉากเด็ดที่ถูกใจผมสุดๆ ก็คือ ฉากที่เธอแหกปากใส่โทรศัพท์ตอนกำลังเคลียร์กับแฟนนิสัยงี่เง่าว่า ?ต่อไปนี้กูจะแรดแล้วโว้ย!!!? และจะว่าไปแล้ว บทของ หนูนา-หนึ่งธิดา ใน กวน มึน โฮ ดูแล้วมีความโดดเด่นไม่แพ้ บท เหม่ยลี่ ของ คริส หอวัง ใน รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เลยทีเดียว
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่อยากจะพูดถึงก็คือ การที่ผู้กำกับ โต้ง บรรจง เลือกที่จะไม่เร้าอารมณ์ผู้ชมจนมากเกินไป ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ถึงแม้ในหนังจะมีฉากซึ้งๆ อยู่หลายฉาก แต่แทนที่จะใช้ฉากเหล่านั้นเรียกน้ำตาขยี้อารมณ์ผู้ชมจนทะลักจุดแตก เขากลับเบรกความรู้สึกไม่ให้เตลิดไปไกลด้วยมุขตลกร้าย หรือไม่ก็บทสนทนาประชัดชัน (ซึ่งโต้ง บรรจง ถนัดอยู่แล้ว ใครที่ดูหนังของเขาใน 4 แพร่ง และ 5 แพร่ง คงทราบดี) จนทำให้หนังดูไม่เลียนจนเกินงาม เช่นเดียวกับฉากจบ ที่ทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน แต่ส่วนตัวกลับชอบที่หนังปิดฉากลงแบบนั้น เพราะไม่งั้นแล้ว การที่หนังพยายามให้น้ำหนักในประเด็นที่ว่า ?คนที่ไม่รู้จักกันแม้กระทั่งชื่อ จะรักกันได้มั้ย?? คงพังครืนไปในพริบตา
แต่ถึงกระนั้น กวน มึน โฮ ก็มีข้อเสียที่อยากจะติติงอยู่หลายประการเช่นกัน ทั้งในส่วนของคาแร็กเตอร์ของ เต๋อ ที่น่าตั้งคำถามอยู่ไม่น้อยว่า จะมีคนกวนทีนแบบไม่รู้จักกาลเทศะอย่างนี้อยู่ในโลกจริงเหรอ? ถ้าเราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะยอมให้ผู้ชายแปลกหน้าท่าทางไม่น่าไว้ใจไปเที่ยวด้วยกันง่ายๆ หรือเปล่า? (ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงอาจจะมีก็ได้ เพียงแต่ในหนังยังดูมีน้ำหนักน้อยเกินไปที่จะทำให้เราเชื่อแบบนั้น) หรือแม้กระทั่งฉากจบของเรื่องที่ด้านหนึ่งก็รู้สึกดีที่ผู้กำกับเลือกให้หนังจบแบบนั้น แต่อีกด้านก็ดูจะเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยโทนและอารมณ์ของหนังแบบ ฟีลกู๊ด ที่เอาคนดูอยู่หมัด จุดอ่อนข้างต้นที่กล่าวมานั้นคงจะกลายเป็นเรื่องเล็ก และถูก (ผู้ชมส่วนใหญ่) มองข้ามไปในที่สุด และถึงแม้ว่า กวน มึน โฮ อาจจะไม่ใช่หนังที่เข้าขั้นยอดเยี่ยม หรือไร้ข้อบกพร่อง แต่อย่างน้อย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งหนัง จีทีเอช ที่ถูกออกแบบมาให้ทุกคนชอบ และรู้สึกดีกับมัน ทั้งๆ ที่เรายังไม่รู้จักชื่อ พระเอก-นางเอก ของหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำ!!! |