แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nikkung เมื่อ 23-5-2011 17:18
ยินดีที่ไม่รู้จักไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ... ดังทั้งเพลง ดังทั้งภาพยนตร์ แล้วนางเอกของเรื่องจะไม่ดังได้อย่างไรคำว่าดังยังไม่พอ เพราะภาพยนตร์เรื่อง "กวน มึน โฮ" ทำให้"หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ" ขึ้นแท่นเป็นนางเอก ที่พ่วงท้ายคำว่า"ร้อยล้าน" ไปด้วย...
จากเด็กสาววัย 18 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนสตรีวิทยาสายอังกฤษ - จีน ดีกรีเกรดเฉลี่ยสูงลิ่วถึง 3.54 ที่ตอนนี้กำลังวุ่นอยู่กับการเอนทรานซ์เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมเพราะเธอต้องควบตำแหน่งนักเรียนไปพร้อมๆ กับความเป็นดาราศิลปิน"สวัสดี...แคมปัส" ต้องรีบคว้ามาสัมภาษณ์เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่มานำแนวคิดการใช้ชีวิตไปเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป
หนูนาเล่าให้ "สวัสดี...แคมปัส" ฟังว่าตอนนี้เธอสอบติดคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นการสอบตรงที่แรกของเธอ ล่าสุดผ่านข้อเขียนแล้วเหลือเพียงแต่รอผลการสอบสัมภาษณ์ ที่จะต้องลุ้นต่อว่าจะมีชื่อเธอในวันที่ 1 ก.พ.ที่จะถึงนี้หรือไม่ เมื่อฟังก็งงงวย ว่าทำไม๊...ทำไมดาราศิลปินส่วนใหญ่ถึงเลือกเรียนในคณะนี้ื ? หนูนาตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวว่าเธอชอบ เพราะวิชาที่เรียนเป็นวิชาเอกการละคร ซึ่งเป็นวิชาที่สนุกที่ไม่ได้มีเพียงแต่การแอ็คติ้งอย่างเดียว แต่ยังมีการสอนไรท์ติ้ง ไดเร็คเตอร์และแดนซ์ซิ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่เธอชอบ
เมื่อถามว่าไม่อยากเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ การเงิน การบัญชี บ้างเหรอ ? น้องหนูนาร้องเสียงสูงว่า"โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ หนูไม่ชอบตัวเลขค่ะ แต่พี่คะ หนูอยากสอบติดที่นี่มากๆแต่หนูก็ไม่ได้บนบานอะไรที่ไหนนะคะ" ถามต่อว่า หากสอบไม่ติดจะทำอย่างไรจะเสียใจหรือไม่ ? หนูนา บอกว่า ต้องเสียใจมากแน่ๆและก็คงต้องรอแอดมิชชั่น ซึ่งหนูตั้งใจจะเลือกคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อนาคตหนูต้องการเป็นอะไร ? หนูนา ตอบว่า"หนูโลภค่ะ ชีวิตนี้หนูอยากเป็นหลายอย่าง อยากเป็นนักเขียน นักข่าวผู้ประกาศข่าว นักแสดง นักร้อง และหนูยังอยากเป็นแอร์โฮสเตสอีกด้วยน่ะหนูอยากทำทุกอย่างให้ได้หมดเลย" เมื่อถามว่าแล้วจะทำได้มั้ย? หนูนาตอบกลับว่า "อยากทำมั้ยค่ะ ถ้าอยากทำ หนูก็จะต้องทำให้ได้"นี่แหล่ะคำตอบที่แทนความมุ่งมั่นของเด็กสาววัย 18 ปี
นอกจากนี้ หนูนายังย้ำอีกว่า "หนูเป็นคนชอบฝัน จะเรียกว่าสาวช่างฝันก็ได้เพราะถ้าเราอยากทำจริงๆ ก็ต้องทำให้ได้ แต่ต้องตัวเอง ณ เวลานั้นหนูอยากทำสิ่งนั้นจริงหรือไม่ ก็ต้องดูกันอีกที แต่ถ้าหนูมีโอกาส หนูก็ทำได้ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ สิ่งไหนทำแล้ว ถึงจะรู้ว่าสิ่งไหนชอบ สิ่งไหนไม่ชอบแต่เราก็มีโอกาสได้ลองและได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันแต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้บังคับอะไร ท่านบอกแล้วแต่หนู แต่คุณแม่ก็อยากให้เป็นผู้ประกาศข่าว"
เมื่อถามถึงความสำเร็จในวงการบันเทิงเป็นอย่างไรบ้าง ? หนูนา แสดงความเห็นว่า "ตั้งแต่หนูมีโอกาสก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงชีวิตหนูเปลี่ยนไปมากเลยค่ะ จากที่เคยเป็นคนธรรมดาเป็นเด็กมัธยมที่เตรียมเอนทรานซ์คนหนึ่ง ที่ยังไม่มีความรับผิดชอบอะไรเท่าไหร่นักเวลานี้หนูเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ต้องรับผิดชอบเรื่องงาน เรื่องเรียนและยังต้องดูแลตัวเองมากขึ้นด้วย แต่ถ้าถามว่าหนูอยากเป็นอะไรในวงการตอนนี้หนูอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คะ"
ที่ว่าหนูนาเปลี่ยนไป ในรอบรั้วสตรีวิทยา หนูนาเปลี่ยนไปมั้ย ? "ชีวิตในโรงเรียนก็เหมือนเดิมตื่นตอนเช้าหน้าตาก็ตู่ๆ ไปโรงเรียน ผมก็ยังยุ่งๆ ไม่ได้หวีให้ดีต้องรีบไปโรงเรียน เพราะกลัวไปสาย พอไปถึงโรงเรียนก็จะดูเอ๋อๆ จากการตื่นเช้ามากๆใครถามก็ตอบงงๆ แต่พอหายงงก็จะเริ่มตลก เพื่อนๆในกลุ่มก็จะเสียงดังๆ หนูว่าอยู่โรงเรียนสบาย เป็นธรรมชาติ ถึงแม้จะมีคนรู้จักแต่จะทำอะไรก็ได้ บางครั้งก็จะมีรุ่นน้องมาขอลายเซ็นบ้าง ถ่ายรูปบ้าง"
หนูนาพูดไป ก็บ่นไป เพราะรู้สึกเสียดายที่จะต้องเรียนจบ ม.6 โดยว่าที่เฟรสชี่ปี 1 บ่นว่านึกแล้วก็เสียดายชีวิตมัธยม เพราะ ม.6 เป็นปีที่สนุกมากและเสียใจที่จะต้องจากเพื่อนๆ เพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยบางคนเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมา 6 ปี บางคน 3 ปี พวกเรารู้ใจกันมาก หนูไม่อยากให้ผ่านไปจริงๆ
งานยุ่งซะขนาดนี้หนูนาจัดสรรเวลาอย่างไรให้ลงตัว ยิ่งช่วงใกล้เอนทรานซ์แบบนี้เด็กมัธยมตอบคำถามพร้อมความสดใสร่าเริงว่า "เรื่องนี้หนูคิดว่าหนูแบ่งเวลาให้ลงตัวได้ โดยเวลาที่ทำงาน หนูก็ทำงานเต็มที่ เวลาเรียนก็จะเ รียนถึงแม้บางครั้งจะเรียนไม่พอบ้าง แต่ก็ต้องตามงานให้ทัน"อืมม...ฟังจบอนาคตเธอต้องเป็นศิลปินผู้โด่งดังแน่เพราะความทุ่มเทของหนูนามีอยู่มากและเต็มไปด้วยพลังจริงๆ
ฟังแต่เรื่องเครียด ลองให้หนูนาเล่าเรื่องไลฟ์สไตส์ให้ฟังบ้าง "สวัสดี...แคมปัส"ได้คำตอบว่า เมื่อหนูนามีเวลา ก็จะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส แต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปเลยเพราะไม่ค่อยมีเวลา แถมยังทำงานหนักด้วย ส่วนเรื่องช็อปปิ้ง เป็นหน้าที่ของคุณแม่ถ้าให้หนูไปเลือกซื้อเสื้อผ้า คงไม่เข้าท่านัก เพราะหนูคิดเองเสมอว่า การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเดียวกันเป็็นการแมทชิ่งซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดๆ แต่เดี๋ยวนี้หนูเปลี่ยนไปแล้วนะ หนูเป็นผู้หญิงมากขึ้นใส่กระโปรงบ่อยขึ้น จากที่เมื่อก่อนไม่เคยใส่เลย
สุดท้ายอยากให้ฝากอะไรไปถึงคนวัยเรียนบ้าง หนูนาทิ้งท้ายว่าอยากให้ทุกคนตั้งใจเรียน ชีวิตในวัยประถมหรือมัธยมเป็นช่วงที่ชีวิตที่กลับไปไม่ได้แล้ว อยากทำอะไร ก็ทำให้เต็มที่เรียนก็ต้องเรียนเต็มที่ เพราะเราจะไม่มีโอกาสกลับไปจุดนั้นอีก ส่วนเพื่อนๆที่กำลังเอนทรานซ์ด้วยกัน หนูนาไม่อยากให้ทุกคนเครียดว่าจะต้องติดมหาวิทยาลัยอันดับ 1 เท่านั้นเพราะเอนทรานซ์ไม่ใช่ที่สุดของชีวิต ชีวิตของทุกคนไม่ได้จบที่เอนทรานซ์แต่ก็อยากให้เต็มที่ที่สุด แล้วชีวิตจะมีความสุขเอง.
|