แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jom_bk เมื่อ 4-12-2010 02:07
จะมีคนกวนทีนแบบไม่รู้จักกาลเทศะอย่างนี้อยู่ในโลกจริงเหรอ? ถ้าเราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะยอมให้ผู้ชายแปลกหน้าท่าทางไม่น่าไว้ใจไปเที่ยวด้วยกันง่ายๆ หรือเปล่า?
ถ้าจะถามหาคนแบบนี้ที่มีอยู่ในโลกจริงๆ ก็เต๋อนี่แหละ ขนาดตอนให้สัมภาษณ์ ผมยังรู้สึกว่าเค้ากวนทีนจริงๆ
บางครั้งก็รู้สึกว่าไม่รู้กาละเทศะจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าเค้าน่ารังเกียจตรงไหนเลย
ส่วนความรู้สึกว่าเค้าไม่น่าไว้ใจ ผมว่าไม่นะ... คนที่มีบุคคลิกแบบเปิดเผย พูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ จะหาได้ที่ไหน
ถ้าคนแบบเต๋อเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจ แล้วในโลกนี้จะมีคนแบบไหนที่น่าไว้ใจได้อีก
บางทีก็ดูน่ารำคาญไปบ้าง แต่เรื่องที่มาบอกว่าเค้าไม่น่าไว้ใจเนี่ย... ผมว่าตรรกะของผู้วิจารณ์น่าจะมีปัญหานะครับ
ฉากจบของเรื่องที่ด้านหนึ่งก็รู้สึกดีที่ผู้กำกับเลือกให้หนังจบแบบนั้น แต่อีกด้านก็ดูจะเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป
ผู้วิจารณ์ดูเหมือนจะไม่เข้าใจหนังรักนะครับ... ความบังเอิญนี่แหละ ที่ทำให้หนังมีความโรแมนติก
ดูอย่างเรื่อง My Sassy Girl สิ ที่พระเอกกับนางเอกมาเจอกันตอนจบ โคตรบังเอิญเลย บังเอิญกว่าของเราตั้งเยอะ แต่ทุกคนที่ได้ดู รู้สึกเต็มอิ่มไปกับความรักของคนทั้งคู่ขนาดไหน ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว... ไม่เชื่อของเข้าไปดูใน www.imdb.com แล้วพิมพ์คำว่า My Sassy Girl ดูสิครับ
แล้วอย่างเรื่อง Serendipity ล่ะ เป็นหนังรักที่ว่าด้วยเรื่องของความบังเอิญล้วนๆ เลยนะครับ
ความบังเอิญ บางครั้งมันก็สื่อให้คนดูรู้สึกว่า พวกเค้าทั้งสองคน เป็นคนที่เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ หรือ เป็นเนื้อคู่กันจริงๆ นี่แหละคือนิยามของคำว่าโรแมนติก
กรณีของเรื่องนี้จะว่าเป็นความบังเอิญเกินไปรึเปล่าที่นางเอกเปิดวิทยุฟัง Club Friday แล้วได้ยินเสียงพระเอกพอดี
ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ... เพราะเค้าชอบฟังอยู่แล้วเป็นปกติ (ไม่เคยขาด) มันขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะได้ยินเสียงพระเอกเมื่อไหร่ เท่านั้นเอง
สุดท้าย ถ้าพระเอกโทรฯ เข้ามาในรายการ เค้าก็ต้องได้รู้อยู่ดี
แต่ถึงอย่างไร ผมก็ไม่เคยนึกรังเกียจความบังเอิญ... เพราะผมเป็นคนที่เชื่อในเรื่อง พรหมลิขิต หรือ บุพเพสันนิวาส... แล้วแต่จะเรียก
ในชีวิตจริง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องได้เจอกับความรักแบบโรแมนติกนะครับ (อย่าพยายามเอาชีวิตของตัวเองไปเทียบ)
ส่วนใหญ่จะเป็นแบบว่า เธอก็อยู่ว่างๆ ชั้นก็อยู่ว่างๆ แถมคุยกันถูกคอ งั้น... เรามาลองคบเป็นแฟนกันเถอะ
พอไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนรู้นิสัยกัน คิดว่าโอเค พอจะอยู่ด้วยกันได้
ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน มีลูก เลี้ยงลูกจนโต แล้วก็แก่เฒ่าไปด้วยกัน
บางทีก็ไม่จำเป็นต้องมีความประทับใจอะไรกันเป็นพิเศษก็ได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่จำเป็นเลย
แต่ถ้าจะเอาชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้มาสร้างเป็นหนัง แล้วมันจะมีอะไรน่าสนใจตรงไหนอ่ะ?
ใครมันจะยอมเสียเงินเข้าไปดู... อยากรู้
|